Olympics

ในแวดวงกีฬาโลกขณะนี้ กำลังจับจ้องไปที่การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC คนใหม่ ซึ่งจะมีขึ้นคืนวันพฤหัสบดี 20 มีนาคม 2025 (ตามเวลาในประเทศไทย) ณ รีสอร์ตหรู คอสตา นาวาริโก ประเทศกรีซ แทนนายโธมัส บาค ประธาน IOC คนปัจจุบัน ซึ่งได้รับเลือกครั้งแรกในปี 2013 และต่อมาได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอีกสมัยในปี 2021 และกำลังสิ้นสุดวาระในเดือนมิถุนายน 2025 โดยนายโธมัส บาค ได้ประกาศว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 การเปลี่ยนแปลงผู้นำในครั้งนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการกีฬาโลก เพราะต้องยอมรับว่าการดำรงตำแหน่งของ นายโธมัส บาค ประธาน IOC กว่า 12 ปี ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นที่ประจักษ์ในวงการกีฬาโลก หนึ่งในความสำเร็จที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงคือ การจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการสรรเสริญว่าเป็นเกมส์ที่ทันสมัย ครอบคลุม และสร้างผลกระทบในระดับโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ความสำเร็จครั้งนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นผลมาจากวิสัยทัศน์และแนวทางการทำงานที่สอดคล้องกับวาระโอลิมปิก 2020 ของ IOC ซึ่งนายบาคเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน ด้วยความทุ่มเทและวิสัยทัศน์อันกว้างไกลนี้เอง ทำให้ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้มอบเครื่องอิสริยาภรณ์ชั้นสูงของประเทศ "Officier de la Légion d’Honneur" ให้แก่ประธานบาค ในพิธีอย่างเป็นทางการ ณ พระราชวังเอลีเซ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2024 ประธานาธิบดีมาครงได้กล่าวสดุดีถึงนายบาค โดยยกย่องถึงความมุ่งมั่น ความเป็นเลิศ มิตรภาพ และวิสัยทัศน์ด้านกีฬาของเขา ที่เน้นย้ำถึงกีฬาเพื่อประชาชนทุกคน อย่างเท่าเทียมและครอบคลุม เป็นกีฬาที่เป็น "โรงเรียนชีวิต" ที่ไม่แบ่งแยกผู้คน แต่เป็นการศึกษาและหลอมรวมผู้คนให้เป็นหนึ่งเดียว มาครงยังกล่าวถึงการทำงานอันหนักหน่วงตลอด 11 ปี ในการส่งเสริมอุดมการณ์โอลิมปิก การดำเนินงานตามวาระโอลิมปิก 2020 โดยให้ความสำคัญกับนักกีฬา การปรับประสาน ส่งเสริมให้เกมส์มีความหลากหลาย รับผิดชอบ ยั่งยืน และเป็นมนุษย์มากขึ้น นอกจากนี้ ยังชื่นชมความมุ่งมั่นส่วนตัวของนายบาคในการส่งเสริมลัทธิพหุภาคีนิยม การเคารพซึ่งกันและกันระหว่างผู้คน และสันติภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โลกที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด มาครงยังเน้นย้ำว่าภายใต้การนำของนายบาค IOC ได้แสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือ และฝรั่งเศสจะยืนหยัดเคียงข้างเพื่อสนับสนุนอุดมการณ์ร่วมกันและปกป้องความเป็นอิสระและความเป็นเอกภาพของขบวนการกีฬานานาชาติ ตลอดระยะเวลาในตำแหน่ง ตั้งแต่ ริโอ โตเกียว และปารีส รวมถึงช่วงเวลาที่ท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 และการกลับมาของสงคราม นายบาคได้นำพาโลกให้มีสิ่งที่เฉลิมฉลองร่วมกัน สร้างความรู้สึกภาคภูมิใจ และทำให้การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ความสามารถในการปรับตัวของโอลิมปิกให้เข้ากับความเป็นจริงและแรงบันดาลใจใหม่ๆ ของโลกกีฬาก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สำคัญ ในขณะที่โลกกำลังจับตาดูการเลือกตั้งประธาน IOC คนใหม่ ชื่อของบุคคลสำคัญในวงการกีฬาไทยก็ได้รับการกล่าวถึงด้วยเช่นกัน และเข้าร่วมประชุมเพื่อเลือกตั้งประธาน IOC คนใหม่เช่นกัน นั่นคือ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ในฐานะกรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC Member) ชาวไทย และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งคุณหญิงปัทมากำลังชิงชัยในตำแหน่ง “ประธานโอลิมปิกไทย” เช่นเดียวกัน เหตุผลที่มีคนแวดวงกีฬาต้องพูดถึง เพราะต้องยอมรับว่า คุณหญิงปัทมา ถือเป็นตัวแทนคนไทยที่มากคอนเนคชั่น และมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับทาง IOC รวมถึงประธานโธมัส บาค ในการขับเคลื่อนภารกิจและอุดมการณ์ของโอลิมปิก โดยปัจจุบัน คุณหญิงปัทมาดำรงตำแหน่งสำคัญใน IOC อาทิ ประธานคณะกรรมาธิการด้านวัฒนธรรมและมรดกโอลิมปิก และ กรรมการคณะกรรมาธิการกองทุนสงเคราะห์โอลิมปิกระหว่างประเทศ15 นอกจากนี้ ยังเป็น รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และมีบทบาทในระดับภูมิภาคในฐานะ สมาชิกคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) และ กรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) อีกด้วย ที่ผ่านมาคุณหญิงปัทมาและประธานบาค ได้มีการทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในฐานะสมาชิก IOC ที่มีบทบาทสำคัญ โดยมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ของ IOC ภายใต้การนำของประธานบาคมาโดยตลอด การได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและการมีบทบาทสำคัญในองค์กรกีฬาต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความสามารถและวิสัยทัศน์ของคุณหญิงปัทมา ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจของวงการกีฬาไทย การเลือกตั้งประธาน น IOC คนใหม่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า โลกกีฬาต่างคาดหวังว่าผู้นำคนใหม่จะสามารถสานต่อเจตนารมณ์และพัฒนาวงการกีฬาโลกให้ก้าวหน้าต่อไปได้ และถือเป็นจะเป็นการเปิดศักราชใหม่ของโอลิมปิกสากล ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ความมั่นคงและเทคโนโลยี สมาชิกไอโอซี ต้องตัดสินใจว่าใครใน 7 คนที่ได้รับการวางลำดับ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ที่เมืองโลซาน 1.เจ้าชายไฟซาล อัลฮุสเซน (จอร์แดน), 2.เดวิด แลปปาร์เชียนต์ (ฝรั่งเศส), 3.โยฮัน เอลิอาช (สหราชอาณาจักร/สวีเดน), 4.ฮวน อันโตนิโอ ซามารันช์ (สเปน), 5.เคิร์สตี โคเวนทรี (ซิมบับเว), 6.ลอร์ด เซบาสเตียน โค (สหราชอาณาจักร) และ 7.โมรินาริ วาตานาเบะ (ญี่ปุ่น) จะได้เป็นประธานไอโอซีคนใหม่ โดยระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจะเริ่มในวันที่ 24 มิถุนายน 2025.