TikTok USA

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารพร้อมประกาศว่า แผนการขายกิจการ TikTok ของจีนในสหรัฐอเมริกา ให้นักลงทุนสหรัฐฯ และทั่วโลก จะเป็นการจัดการตามข้อกำหนดด้านความมั่นคงแห่งชาติ (National Security Requirements) ตามกฎหมายปี 2024 บริษัทใหม่ของสหรัฐฯ (TikTok ในสหรัฐฯ) มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ราคาของ TikTok แอปวิดีโอสั้นยอดนิยมนี้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์บางคนประมาณการไว้มาก โดย Dan Ives นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities ประมาณการณ์ว่า TikTok จะมีมูลค่าโดยปราศจากอัลกอริทึม (Algorithm) 30,000-40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นั่นหมายถึง “ทรัมป์” กดราคาขาย TikTok ในสหรัฐฯ ต่ำกว่ามูลค่าจริงกว่าเท่าตัว เพื่อจูงใจให้ผู้ซื้อในสหรัฐฯ จ่ายเงินซื้อ TikTok ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ “ทรัมป์” เลื่อนการบังคับใช้กฎหมายห้ามแอปฯ ดังกล่าวในสหรัฐฯ ออกไปถึง 20 มกราคม 2026 ท่ามกลางความพยายามที่จะดึงสินทรัพย์ของ TikTok ในสหรัฐฯ ออกจากแพลตฟอร์ม TikTok ระดับโลกและจัดหานักลงทุนชาวอเมริกันและนักลงทุนรายอื่นให้มาซื้อ TikTok USA และได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลจีน คำสั่งฝ่ายบริหารเรื่องการขาย TikTok แสดงให้เห็นว่า “ทรัมป์” กำลังมีความคืบหน้าการขายสินทรัพย์ของ TikTok ในสหรัฐฯ แต่มีรายละเอียดอีกมากที่จำเป็นต้องได้รับการชี้แจงให้ชัดเจน รวมถึงวิธีที่หน่วยงานในสหรัฐฯ จะใช้สินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดของ TikTok นั่นหมายถึงอัลกอริทึมการแนะนำ (Recommendation algorithm คือชุดคำสั่งที่ใช้ AI และ Machine Learning เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมและความชอบของ User แล้วนำไปประมวลผลเพื่อคาดการณ์และแนะนำสินค้า บริการหรือเนื้อหาที่ User อาจสนใจ) แม้ว่ามีการต่อต้านอยู่บ้างจากฝั่งจีน แต่สิ่งพื้นฐานที่ต้องการบรรลุคือต้องการให้ TikTok ดำเนินการต่อไป แต่ต้อง การให้แน่ใจว่าเราได้ปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลของชาวอเมริกันตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของทรัมป์ ระบุว่า อัลกอริทึมของ TikTok จะได้รับการฝึก (Retrained) และตรวจสอบใหม่ โดยพันธมิตรด้านความปลอดภัยของบริษัทในสหรัฐฯ และการทำงานของอัลกอริทึมจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ พร้อมยกเครดิตให้ TikTok ที่มีผู้ใช้ในสหรัฐฯ 170 ล้านคน ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งอีกสมัยเมื่อปีที่แล้ว และทรัมป์มีผู้ติดตามบัญชี TikTok ส่วนตัว 15 ล้านคน ขณะที่ LatePost สื่อของจีน รายงานภาพข้อตกลง TikTok ที่แตกต่างออกไป โดยชี้ให้เห็นว่า ByteDance จะยังมีบทบาทสำคัญหรือมีบทบาทในการดำเนินงานต่อไป โดย ByteDance จะจัดตั้งบริษัทใหม่ในสหรัฐฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างการดำเนินงานของ TikTok ในสหรัฐอเมริกา และรับผิดชอบด้านอีคอมเมิร์ซ การสร้างแบรนด์และการเชื่อมต่อกับการดำเนินงานระหว่างประเทศ