เก็บ 20 หุ้นเด่น Window dressing หนุน SET ปรับขึ้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ Sideway up โดยยังคาดหวังการทำ Window dressing ในช่วงปิดไตรมาสหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น ขณะที่การลงทุนยังแนะนำหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก หรือเลือกเก็งกำไรในกลุ่มที่เป็นเป้าในการทำ Window dressing


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.65 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เลื่อนการลงมติเกี่ยวกับการนำร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” มาใช้แทนกฎหมาย “โอบามาแคร์” เนื่องจากเสียงสนับสนุนของพรรครีพับลิกันยังไม่มากพอต่อการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้เกิดความกังวลว่า ความล้มเหลวในการผลักดันร่างกฎหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์อาจส่งผลให้การมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นๆของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องล่าช้าออกไป

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย (SET) วันนี้ Sideway up โดยยังคาดหวังการทำ Window dressing ในช่วงปิดไตรมาสหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น ขณะที่การลงทุนยังแนะนำหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเป็นหลัก หรือเลือกเก็งกำไรในกลุ่มที่เป็นเป้าในการทำ Window dressing หุ้นเด่นเลือก MTLS-ESSO-AAV-SUSCO-WORK-PTTGC-TPCH-HANA-TACC-KKP-BIG-BR-TISCO-TASCO-CPF-GFPT-TFG-STA-ASIAN และ BEM

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มี.ค.) ว่า “ทรัมป์” พยายามหนุนร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์” ให้ผ่านสภาฯ ภายในคืนนี้ หลังจากเสียงสนับสนุนร่างกฎหมายเมื่อคืนนี้ไม่มากพอให้ผ่านร่างได้ ซึ่งจะทำให้คาดคาดหวังต่อการผ่านร่างกฎหมายอื่นๆ ตามมาเพิ่มขึ้นเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นโลกวันนี้ + Window dressing สิ้นไตรมาส 1/17 หนุนการฟื้นตัวของ SET วันนี้ แนวต้าน 1,573 จุด อย่างไรก็ตาม ยังมองการปรับสูงขึ้นของ SET ตั้งแต่กลางเดือน มี.ค.เป็น Relief rebound เป้าหมาย 1,580-1,595 จุด เท่านั้น

แนะนำ “ซื้อ” MTLS ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 36.00 บาท ความต้องการสินเชื่อสูง และการขยายสาขาเชิงรุก 500 – 600 สาขา/ปี ในปี 4 ปีข้างหน้า จากสิ้นปี 2016 ที่ 1,664 สาขา หนุนสินเชื่อเติบโต 43% และกำไรเติบโตแกร่ง 60-57% ปี 2017-18 ขณะที่ NPL ratio ต่ำเพียง 1% +/- รวมถึง “ซื้อ” KKP จากผลตอบแทนปันผลสูง 5.8% ในอีก 1  เดือนข้างหน้า และ 8.7% ปีนี้ รวมไปถึงหุ้น Valuation ต่ำ และกำไรเติบโตแกร่งในไตรมาส 1/17 อย่าง ESSO AAV  SUSCO  WORK PTTGC และ TPCH

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มี.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวในทิศทาง Sideway up แม้การประชุมสภาผู้แทนฯสหรัฐในการผ่านร่างกฏหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่จะยังไม่จบและเลื่อนการลงมติเป็นวันนี้ แต่ยังมีมุมมองเขิงบวกว่าในที่สุดแล้วกฏหมายดังกล่าวจะผ่านการเห็นชอบของรัฐสภาซึ่งสะท้อนผ่านการเคลื่อนไหวของดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าที่ปรับขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะเดียวกันยังคาดหวังการทำ Window dressing ในช่วงปิดไตรมาสหนุนดัชนีให้ปรับตัวขึ้น ส่วนการประชุมแบงก์ชาติในวันที่ 29 มี.ค.ไม่น่ากังวลคาดกนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ1.5% ตามเดิม

ยังเน้นกลยุทธ์ Selective Buy เลือกหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว คือ 1) หุ้นที่คาดว่าจะประกาศงบไตรมาส 1/17 ออกมาเติบโตโดดเด่น HANA, TACC, KKP, BIG, BR, TASCO 2) หุ้นที่จ่ายปันผลดีและให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อาทิ TISCO และ KKP 3)กลุ่มสินค้าเกษตร CPF GFPT และ TFG  รับข่าวดีเกาหลีใต้เตรียมพิจารณาลดภาษีนำเข้าไก่จากเมืองไทยหนุนความต้องการไก่จากเกาหลีเพิ่มขึ้น และ 4) กลุ่มที่เป็นเป้าในการทำ Window dressing อาทิ กลุ่มท่องเที่ยว และ ค้าปลีกซึ่งเป็นกลุ่มที่ราคาหุ้นยังปรับขึ้นไม่มากหากเทียบกับราคาปิดในปีที่ผ่านมา

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : GFPT (ซื้อ/เป้า 19.00 บาท), CPF (ซื้อ/เป้า 42.00 บาท) รับข่าวดีเกาหลีใต้เตรียมพิจารณาลดภาษีนำเข้าไก่จากเมืองไทยหนุนความต้องการไก่จากเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น, BEM (ซื้อ/เป้า 9.00 บาท) เก็งกำไรครม.อนุมัติรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในสัปดาห์หน้า

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 มี.ค.) ภาวะการซื้อขายเริ่มฟื้นตัวหลังจากทิศทาง Dollar Index เริ่มอ่อนค่าลงสู่ระดับ 99.91 และยังรอผลการโหวตร่าง ก.ม. อเมริกัน เฮลธ์แคร์ ที่เลื่อนมาเป็นวันนี้แทน ส่วนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศวานนี้ สศก. เผยดัชนีราคาและผลผลิตสินเกษตร ก.พ. ขยายตัวดีและฟื้นตัวต่อเนื่องใน มี.ค. ส่งผลบวกต่อกำลังซื้อเกษตรกรและการบริโภค กลยุทธ์การลงทุนวันนี้คาดดัชนี SET ยังทรงตัวที่ระดับ 1,560 – 1,575 จุด ระหว่างรอความชัดเจนการผ่านร่าง กม. อเมริกัน เฮลธ์แคร์ แนะนำซื้อกลุ่มสินค้าเกษตรส่งออกที่ยังมีทิศทางฟื้นตัวดี เช่น CPF, GFPT, TFG, STA, ASIAN

Back to top button