สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ม.ค.60


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากมีรายงานว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559 ของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายและรอดูการพบปะกันของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,093.78 จุด ลดลง 7.13 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,660.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.60 จุด หรือ +0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,294.69 จุด ลดลง 1.99 จุด หรือ -0.09%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนลบ เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) จากแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังยูบีเอส กรุ๊ป ของสวิตเซอร์แลนด์ รายงานผลประกอบการที่สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 1.12 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 366.38 จุด หลังจากปิดที่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 13 เดือนเมื่อวันก่อน ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีปรับตัวขึ้น 1.1%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 27.26 จุด หรือ 0.56% ปิดที่ 4,839.98 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันลดลง 34.36 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 11,814.27 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษเพิ่มขึ้น 23.00 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 7,184.49 จุด

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) หลังหุ้นเทสโก้ทะยานขึ้นกว่า 9% รับข่าวบริษัทตกลงซื้อกลุ่มบริษัทค้าส่งอาหารอย่าง บุคเกอร์ กรุ๊ป ในวงเงิน 3.7 พันล้านปอนด์ เพื่อรุกธุรกิจจัดส่งอาหาร

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 23.00 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 7,184.49 จุด ขณะที่ทั้งสัปดาห์ ดัชนีลดลง 0.2%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบ เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในสหรัฐ และยังได้บดบังปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการปรับลดกำลังการผลิตของทั้งกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 61 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 53.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 72 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 55.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลง เมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้ความต้องการถือครองทองคำของนักลงทุนลดน้อยลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,188.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 28.6 เซนต์ หรือ 1.70% ปิดที่ 17.136 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 983.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 14.15 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 738.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า นโยบายต่างๆของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4 ได้สกัดแรงบวกของดอลลาร์ในระหว่างวัน

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 115.08 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 114.41 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9995 ฟรังค์ จากระดับ 0.9992 ฟรังค์

ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.0696 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0695 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.2555 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2600 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7546 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button