3 หุ้นสุดร้อนแรง! ราคาวิ่งกระฉูด เตรียมรับอานิสงส์ “ช้อปช่วยชาติ”

3 หุ้นสุดร้อนแรง! ราคาวิ่งกระฉูด เตรียมรับอานิสงส์ “ช้อปช่วยชาติ” โดย ล่าสุด ณ เวลา 15.49 น. ราคาหุ้น บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ROBINS อยู่ที่ 73.75 บาท บวก 3.75 บาท หรือ 5.36% สูงสุดที่ 74 บาท ต่ำสุดที่ 69.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 237.80 ล้านบาท ส่วน JMART อยู่ที่ 19.70 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.68% สูงสุดที่ 20.10 บาท ต่ำสุดที่ 18.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 186.30 ล้านบาท ด้าน ERW อยู่ที่ 7.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 7.60 บาท ต่ำสุดที่ 7.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 75.38 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมบวก 0.36%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ณ เวลา 15.49 น. ราคาหุ้น บริษัท โรบินสัน จำกัด (มหาชน) หรือ ROBINS อยู่ที่ 73.75 บาท บวก 3.75 บาท หรือ 5.36% สูงสุดที่ 74 บาท ต่ำสุดที่ 69.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 237.80 ล้านบาท

ส่วนราคาหุ้น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART อยู่ที่ 19.70 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.68% สูงสุดที่ 20.10 บาท ต่ำสุดที่ 18.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 186.30 ล้านบาท

ด้าน ราคาหุ้น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW อยู่ที่ 7.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ 7.60 บาท ต่ำสุดที่ 7.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 75.38 ล้านบาท ขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นโดยรวมบวก 0.36%

ทั้งนี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงคาดว่า นักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังกระทรวงการคลังเตรียมที่จะเสนอครม. อนุมัติมาตการช็อปช่วยชาติในเร็วๆ นี้ คาดเป็นผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว

โดย บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ กระทรวงการคลังเตรียมที่จะเสนอครม. อนุมัติมาตการช็อปช่วยชาติ  เบื้องต้นคาดว่ามาตการสำหรับปีนี้จะใช้เวลา 19 วัน ให้มีผลตั้งแต่ 15 พ.ย. จนถึง 3 ธ.ค. เพื่อให้เกิดผลกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนพ.ย. จนถึงสิ้นปี ซึ่งจะมีผลต่อ GDP ในไตรมาส 4/60 หากระยะเวลาใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ราว 18 วัน คาดว่าจะกระตุ้น GDP ได้ราว 0.05%

โดยทางด้านผู้ประกอบการค้าปลีก คาดว่าถ้ามีการขยายระยะเวลามาตรการเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม  อาจจะกระตุ้นยอดขายในช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น 5-10% จึงคาดว่าจะมาตรการดังกล่าวจะเป็นบวกต่อ CPN, ROBINS, HMPRO, CPALL, MINT, CENTEL, MC, TNP, FN, JMART, COM7, BIG

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า BEAUTY, BIG, COL, COM7, HMPRO, ROBINS, CENTEL, ERW เป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีมาตรการช็อปช่วยชาติ

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ซื้อ” ERW ให้ราคาเป้าหมาย 8.10 บาท/หุ้น โดยคาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 70 ล้านบาท เติบโตโดดเด่นที่ 26%จากงวดปีก่อน และ 22% จากไตรมาสก่อน ตามรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) ที่ไม่รวมโรงแรมราคาประหยัด ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่กำไรในไตรมาส 4/60 จะยังคงโดดเด่นต่อเนื่อง ซึ่งจะมากกว่าไตรมาส 3/60 และมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว และมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากจีน รัสเซีย และไทยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะเติบโตได้ 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ซึ่ง ERW มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 14%

นอกจากนี้ การเติบโตส่วนใหญ่จะมาจากโรงแรมระดับกลางในต่างจังหวัด รวมถึงยังเปิดโรงแรมราคาประหยัด ภายใต้แบรนด์ HOP INN อีก 4 แห่ง ในจังหวัดนครสวรรค์ กาญจนบุรี ลพบุรี และขอนแก่น ในช่วงไตรมาส 4/60 ก็จะเข้ามาหนุนผลการดำเนินงานในใตรมาสสุดท้ายของปีนี้

ส่วน ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ แนะนำ “ทยอยซื้อ” ROBINS ราคาเป้าหมาย 79 บาท/หุ้น แนวโน้มไตรมาส 4/60 เป็นบวกมากขึ้นจากแผนเปิดสาขา 2 แห่งที่กำแพงเพชรและมหาชัย ส่งผลให้ทั้งปีมีสาขาเพิ่ม 3 แห่งตามเป้า และ HighSeason ของการจับจ่ายใช้สอยช่วงเทศกาลปลายปี รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้นตามตัวเลขเศรษฐกิจที่มีการปรับ GDPปี 60 เพิ่ม นอกจากนี้มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจมีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปีเพิ่มเติมออกมา

ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 61 คาดส่งผลบวกต่อรายได้และกำไร โดยบริษัทมีฐานที่แข็งแกร่งในต่างจังหวัดและมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งด้วย Interest-bearingD/Eเพียง 0.1 เท่า

 

Back to top button