กระทรวงแรงงานปรับขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ! สูงสุด 22 บ. เริ่มทันที 1 เม.ย.61

นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค่าจ้าง เปิดเผยภายหลังการประชุมพิจารณาปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ  ว่า ที่ประชุมมีมติปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นทั่วประเทศ ทั้ง 77 จังหวัด ปรับตั้งแต่ 5-22 บาท แบ่งเป็นทั้งหมด 7 ระดับ ตามสภาพความเจริญทางเศรษฐกิจ

โดยจังหวัดที่ได้รับการปรับขึ้นสูงสุดคือ ภูเก็ต ชลบุรี และระยอง จำนวน 330 รองลงมาคือ 325 บาท คือกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ส่วนจังหวัดที่ปรับเป็น 320 บาท มีทั้งหมด 14 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สุพรรณบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา หนองคาย ลพบุรี ตราด ขอนแก่น สงขลา สุราษฎร์ธานี กระบี่ เชียงใหม่ นครราชสีมา และพังงา สำหรับจังหวัดที่ปรับเป็น 318 บาท มี 7 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี สมุทรสงคราม สกลนคร มุกดาหาร นครนายก กาฬสินธุ์ และปราจีนบุรี

ขณะที่รองลงมาจังหวัดที่ปรับขึ้นเป็น 315 บาท มี 21 จังหวัดได้แก่ ร้อยเอ็ด ประจวบคีรีขันธ์ นครสวรรค์ สระแก้ว พัทลุง อุตรดิตถ์ นครพนม บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพชรบุรี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยนาท เลย อุดรธานี ยโสธร พะเยา บึงกาฬ น่าน กาญจนบุรี และอ่างทอง

สำหรับจังหวัดที่ปรับขึ้นค่าแรงเป็น 310 บาท จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี นครศรีธรรมราช แม่ฮ่องสอน ตรัง ลำปาง ลำพูน เชียงราย สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร อุทัยธานี ศรีสะเกษ ตาก ชัยภูมิ อำนาจเจริญ แพร่ ราชบุรี ระนอง มหาสารคาม ชุมพร หนองบัวลำภู และสตูล

โดยจังหวัดที่ปรับขึ้นน้อยที่สุดจำนวน 308 บาท มี 3 จังหวัดคือปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภาพรวมในการปรับเฉลี่ยอยู่ที่ 315.97 บาท และทั้งหมดนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 แต่เบื้องต้นจะสรุปผลเพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน ก่อนที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบปลัดกระทรวงแรงงาน บอกด้วยว่า เพื่อเป็นหลักประกันให้กับแรงงาน กระทรวงจะมีการปรับแก้กฎหมายบังคับให้ผู้ประกอบการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป จัดทำโครงสร้างการปรับขึ้นเงินเดือนทุกปี เพื่อให้มีความชัดเจน

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีข้อเสนอให้มีการปรับค่าจ้างแบบลอยตัวโดยเริ่มนำร่องในพื้นที่ 3 จังหวัดระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกก่อน คือ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดยให้ค่าจ้างลอยตัวที่เป็นไปตามความต้องการของผู้ประกอบการ