
“เป๊ปซี่” ทุ่มแสนล้าน ฮุบ “โซดาสตรีม” บุกตลาดถึงบ้านผู้บริโภค
“เป๊ปซี่” ทุ่มแสนล้านบาท ฮุบ “โซดาสตรีม” เจาะตลาดถึงบ้านผู้บริโภค
บริษัท เป๊ปซี่โค (PepsiCo) ผู้ผลิตอาหาร และเครื่องดื่มชั้นนำจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องดื่มน้ำอัดลม “เป๊ปซี่” ประกาศแผนการเข้าถือสิทธิ์ทั้งหมดในโซดาสตรีม ผู้ผลิตเครื่องทำน้ำอัดลมในบ้าน เป็นเงิน 3,200 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 1 แสนล้านบาท (อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 33.07 บาท) สำหรับข้อตกลงในครั้งนี้จะส่งผลให้เป๊ปซี่มีช่องทางการขายใหม่ถึงบ้านของผู้บริโภค จากเดิมมีจุดจำหน่ายเพียงแค่ร้านค้าต่างๆ
โดยเป๊ปซี่จะจ่ายเป็นเงินสด 144 ดอลลาร์ต่อหุ้น หรือประมาณ 4,765.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาเฉลี่ยในรอบ 30 วันของโซดาสตรีมอยู่ถึง 32% ซึ่งราคาก่อนตลาดเปิดของอเมริกาในวันที่ 20 สิงหาคม 2561 หุ้นโซดาสตรีมปรับตัวขึ้นมาถึง 13.51 ดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 10.40% มาอยู่ที่ 143.36 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ โซดาสตรีมเป็นบริษัทที่มีฐานในกรุงเทล อาวีฟ ประเทศอิสราเอล ซึ่งผลิตเครื่อง และถังรีฟิลที่ผู้ใช้สามารถทำโซดาหรือน้ำอัดลมได้เอง โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกทำน้ำดื่มได้เองที่บ้าน โดยมีให้เลือกกว่า 100 สูตร
สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าเป๊ปซี่กำลังลดธุรกิจเครื่องดื่มลงสองเท่าเนื่องจากธุรกิจเครื่องดื่มในอเมริกาเหนือโตได้อย่างลำบากเพราะว่าผู้บริโภคเลิกดื่มน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล โดยนางนูยี อดีตประธานบริษัทเป๊ปซี่โค ซึ่งพ้นตำแหน่งไปแล้วเมื่อต้นเดือนสิงหาคมได้เปลี่ยนเป๊ปซี่จากบริษัทที่จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ไปผลิตสินค้าทางเลือกที่เน้นสุขภาพมากขึ้น
ด้าน รามอน ลากูร์ตา ประธานบริษัทเป๊ปซี่โค ซึ่งจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธาน แทนนางนูยี อดีตประธานบริษัท ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมนี้ เปิดเผยว่า เป๊ปซี่โคกำลังมองหาหนทางใหม่ๆ ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคนอกเหนือจากขวด และโซดาสตรีมเป็นตัวเสริมและตัวเพิ่มที่ดีให้กับธุรกิจของบริษัท โดยช่วยเพิ่มพอร์ตน้ำดื่มได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้บริษัทสามารถเสนอทางออกเรื่องการทำเครื่องดื่มเฉพาะตัวในบ้านไปทั่วโลก
สำหรับโซดาสตรีม ข้อตกลงนี้เป็นโอกาสเพิ่มที่จะทำได้ขยายกิจการผ่านฐานของเป๊ปซี่ทั่วโลก ในขณะนี้บริษัทจำหน่ายสินค้าตามร้านค้าปลีก 80,000 แห่งใน 45 ประเทศ โดยตลาดใหญ่สุดอยู่ในเยอรมนี ฝรั่งเศส แคนาดาและสหรัฐ
อนึ่งก่อนหน้านี้ เป๊ปซี่ได้เจรจากับโซดาสตรีมมาเป็นระยะเวลา 2 ปี โดยคาดว่าข้อตกลงนี้จะเสร็จสิ้นลงในเดือนมกราคม 2562 อย่างไรก็ตามรายการดังกล่าวจะต้องรอการอนุมัติของผู้ถือหุ้นของโซดาสตรีม และผ่านความเห็นชอบเกี่ยวกับระเบียบบางอย่างก่อน
ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะรายงานให้ทราบในครั้งต่อไป