เปิดเงื่อนไข ‘ปิดหนี้ไว ไปต่อได้’

มีความชัดเจนแล้วสำหรับโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้งเดียว


เส้นทางนักลงทุน

มีความชัดเจนแล้วสำหรับโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ซึ่งเป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้งเดียว โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสีย หรือ NPLs ให้ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อช่วยลดภาระหนี้ ด้วยการ “ปิดจบหนี้ได้เร็ว” และกลับมามี “ประวัติการชำระหนี้ที่ดี”

การแจ้งเกิดของโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” เนื่องจากภาครัฐ โดยกระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีเป้าหมายเพื่อช่วยลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้เสีย วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ให้หลุดพ้นจากกับดักหนี้ และกลับสู่ระบบการเงินได้

ซึ่งภาครัฐกำหนดให้กลุ่มเป้าหมายในระยะแรก คือ ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่ถูกพิจารณาว่าเป็นหนี้เสีย ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 นั้นแสดงว่าจะต้องเป็นหนี้ที่ค้างชำระต้นเงินหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน

ซึ่งขั้นตอนการเริ่มดำเนินการ ก็คือ วันที่ 1 มกราคม 2569 สถาบันการเงินจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์หนี้ไปยังบริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) จากนั้นวันที่ 5 มกราคม 2569 ลูกหนี้ที่สนใจสามารถติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้ หรือติดต่อผ่านช่องทางของ SAM และ ธปท. เพื่อยื่นขอปรับโครงสร้างหนี้

ภายใต้การดำเนินงานของโครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” มีการคาดหวังว่าจะสามารถช่วยแก้ไขหนี้ได้สำเร็จ 30-50% ของลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ หรือประมาณ 500,000-800,000 ราย จากจำนวนลูกหนี้ทั้งหมด 1.6 ล้านบัญชี ส่งผลให้ลูกหนี้ที่ปิดหนี้ได้สำเร็จ จะมีประวัติเครดิตบูโรกลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น จากเดิมที่ต้องรอ 3 ปี และลูกหนี้จะมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้อีกครั้ง ภายหลังจากลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ของตนเองได้สำเร็จ และมีประวัติเครดิตบูโรที่ดีขึ้น

“เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” เป็นโครงการเรือธงเสาที่ 2 ของรัฐบาล ในการช่วยลดภาระหนี้ของประชาชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย, สมาคมธนาคารไทย, สถาบันการเงิน และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันเร่งขับเคลื่อนให้โครงการฯ เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน

เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัญหาเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และการเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย

โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” ในระยะแรกจะครอบคลุมลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ และบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ จำนวนประมาณ 1.6 ล้านบัญชี หรือ 1.2 ล้านราย คิดเป็นภาระหนี้ประมาณ 43,600 ล้านบาท

เมื่อ SAM รับซื้อหนี้ของลูกหนี้กลุ่มเป้าหมายเพื่อนำมาปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน เพื่อให้ลูกหนี้กลับมาจ่ายชำระหนี้ได้ โดย SAM เป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์เพื่อสังคม (social AMC) ที่มุ่งเน้นช่วยแก้หนี้ให้ประชาชนโดยไม่มุ่งหากำไร ซึ่งในระยะต่อไปจะพิจารณาขยายให้ SAM รับซื้อหนี้จากผู้ให้บริการทางการเงินประเภทอื่นเพิ่มเติมด้วย

ขณะที่ วิทัย รัตนากร” ผู้ว่าการ ธปท.ชี้ว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่กระทบต่อประชาชน รวมถึงการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) ซึ่งในปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ที่ 87% ของจีดีพี ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค

การเลือกกลุ่มลูกหนี้ที่มียอดหนี้ต่ำกว่า 100,000 บาท เป็นโครงการนำร่อง เพราะกลุ่มนี้มีจำนวนบัญชีสูงถึง 4.7 ล้านบัญชี หรือคิดเป็น 3.4 ล้านราย คิดเป็นกว่า 60% ของจำนวนลูกหนี้เสียทั้งหมดในระบบ

โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” จะมีแรงจูงใจด้วยการยกเว้นดอกเบี้ย ค่าปรับ หรือค่าธรรมเนียมบางส่วน ทำให้ยอดหนี้ที่ต้องชำระลดลง และปิดหนี้ได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน ก็ต้องระมัดระวังว่าจะต้องไม่สร้างแรงจูงใจที่ผิด (Moral Hazard)

จึงมีผลให้โครงการ “ปิดหนี้ไว ไปต่อได้” นี้ เป็นมาตรการเฉพาะกิจที่จะดำเนินการเพียงครั้งเดียว เพื่อไม่ทำให้ลูกหนี้เสียวินัยทางการเงิน

Back to top button