สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดหุ้นต่างประเทศประจำวันที่ 12 ก.พ. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) ขานรับรายงานที่ว่าสมาชิกพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันสามารถบรรลุข้อตกลงชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) รอบที่ 2 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนในสัปดาห์นี้จะมีความคืบหน้า โดยมุมมองบวกที่มีต่อการเจรจาการค้าได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งและเป็นปัจจัยหนุนดัชนี Nasdaq ทะยานขึ้นกว่า 100 จุด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,425.76 จุด พุ่งขึ้น 372.65 จุด หรือ +1.49% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,744.73 จุด เพิ่มขึ้น 34.93 จุด หรือ +1.29% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,414.62 จุด เพิ่มขึ้น 106.71 จุด หรือ +1.46%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นนำตลาด หลังจากบริษัทมิชลินเปิดเผยผลประกอบการสดใส นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมถึงความหวังที่สหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) รอบ 2 ในวันศุกร์นี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.46% ปิดที่ 362.78 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,126.08 จุด เพิ่มขึ้น 111.49 จุด หรือ +1.01% ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,133.14 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ +0.06% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,056.35 จุด เพิ่มขึ้น 41.88 จุด หรือ +0.84%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังนักลงทุนขานรับแนวโน้มการทำข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน รวมทั้งการหลีกเลี่ยงภาวะปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) รอบ 2 และความหวังเกี่ยวกับการเจรจาเรื่อง Brexit

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,133.14 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ +0.06%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบีย และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 53.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 91 เซนต์ หรือ 1.5% ปิดที่ 62.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,314.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ปิดทรงตัวที่ระดับ 15.69 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3.00 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 789.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 18.60 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,375.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.พ.) หลังจากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมชะลอตัวลงในเดือนม.ค. อันเนื่องมาจากผลกระทบของภาวะชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้า

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1331 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1275 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.2897 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2860 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.7098 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7062 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.50 เยน จากระดับ 110.40 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0062 ฟรังก์ จากระดับ 1.0040 ฟรังก์ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3241 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3298 ดอลลาร์แคนาดา

 

Back to top button