UWC สรุปซื้อ 4 โรงไฟฟ้าชีวมวล 40 MW ก.ย.นี้-คาดช่วง Q3 ชัดเจนอีก 100 MW

UWC สรุปซื้อ 4 โรงไฟฟ้าชีวมวล 40 MW ก.ย.นี้-คาดช่วง Q3 เล็งเจรจาและรู้ผลชัดเจนอีก 100 MW


นายมณฑล เชตุวัลลภกุล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการบัญชีและการเงินและสำนักงาน บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวล(Biomass)และโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพ(Biogas) 14 โรง รวมกำลังผลิต 140 เมกะวัตต์ โดย 4 โรงแรกเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใช้พืชพลังงานเป็นวัตถุดิบ กำลังผลิต 40 เมกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการต่อรองราคาคาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายเดือน ก.ย.นี้

ทั้งนี้ คาดว่าหากตกลงซื้อขายได้ บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้ทันทีในปีนี้ เพราะเป็นโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว แต่อาจต้องมีการปรับปรุงโรงไฟฟ้าด้วย

นอกจากนั้น บริษัทยังมีความสนใจขยายการลงทุนและเจรจากับโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอีก 10 แห่งทั้งโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงไฟฟ้าชีวภาพ รวมขนาดกำลังการผลิตราว 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ความชัดเจนเบื้องต้นภายในช่วงปลายไตรมาส 3/58 มีทั้งการเข้าซื้อกิจการทั้ง 100% และการเข้าร่วมทุนที่ UWC จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วนมากกว่า 50% ซึ่งปลายปีนี้น่าจะมีข้อสรุป

สำหรับแหล่งเงินทุนของบริษัทในธุรกิจโรงไฟฟ้าจะมาจากเงินเพิ่มทุนจำนวน 1,200 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอการลงทุนในโรงไฟฟ้า 4 แห่งแรกที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปก่อนเป็นลำดับแรก

ทั้งนี้  บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีรายได้ราว 1,000 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 700 ล้านบาท โดยรายได้จากธุรกิจเดิมคือผลิตและจำหน่ายเสาโทรคมนาคมและเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูง น่าจะอยู่ที่ราว 600 ล้านบาท และทำรายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวล 4 โรงเข้ามาประมาณ 400 ล้านบาทในไตรมาส 4/58 ส่วนโรงไฟฟ้าชีวมวลโครงการแรกที่ร่วมทุนกับบริษัท ไทยนคร พาราวู้ด จำกัด กำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ จะเริ่มจ่ายไฟในกลางปี 59

โดยบริษัทมองว่าธุรกิจเดิมในปีนี้ยังทรงตัว โดยคาดว่าจะมียอดขายเสาโทรคมนาคม 400 ล้านบาท จากปีก่อนมี 300 ล้านบาท โดยครึ่งแรกปี 58 รับรู้ฯไปแล้ว 200 ล้านบาท เหลืออีก 200 ล้านบาทจะรับรู้ฯในครึ่งปีหลัง แต่อาจจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทโทรคมนาคมทั้ง 3 รายใหญ่ต้องติดตั้งโครงข่าย 3G ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ส่วนธุรกิจเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงมีรายได้ 200 ล้านบาท ขณะนี้มีคำสั่งซื้อแล้วกว่า 600 ล้านบาท เริ่มผลิตและส่งมอบตั้งเดือน ก.ย.นี้

ส่วนในอีก 4-5 ปีข้างหน้าบริษัทคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพลังงานจะสูงขึ้นมาถึง 80-90% ส่วนที่เหลือจะมาจากธุรกิจเดิม ขณะที่กำไรจะเติบโตก้าวกระโดด เนื่องจากธุรกิจพลังงานมีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจเดิมมาก

Back to top button