ปริศนา ‘ไวรัสสายพันธุ์ใหม่อังกฤษ’

ในขณะที่ทั่วโลกยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ก็มีข่าวร้ายมาจากอังกฤษว่า ได้พบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ติดเชื้อง่ายกว่าเดิมถึง 70% อังกฤษต้องรีบใช้มาตรการป้องกันในระดับสูงสุด และหลายประเทศได้ประกาศตัดขาดจากอังกฤษทั้งทางบก ทางน้ำและ ทางอากาศกันเป็นการด่วน


กระแสโลก : ฐปนี แก้วแดง

ในขณะที่ทั่วโลกยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ก็มีข่าวร้ายมาจากอังกฤษว่า ได้พบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ติดเชื้อง่ายกว่าเดิมถึง 70% อังกฤษต้องรีบใช้มาตรการป้องกันในระดับสูงสุด และหลายประเทศได้ประกาศตัดขาดจากอังกฤษทั้งทางบก ทางน้ำและ ทางอากาศกันเป็นการด่วน

สิ่งที่ทำให้เกิดความกังวลมากในขณะนี้คือ ยังไม่มีความไม่แน่นอนและมีเรื่องที่ยังไม่รู้อีกมากเกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษ แต่ที่แน่ ๆ ที่ปรึกษาด้านการติดเชื้อใหม่ของรัฐบาลอังกฤษมีความมั่นใจ “พอประมาณ” ว่า มันสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ

สาเหตุที่ทำให้ ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ของอังกฤษได้รับความสนใจมากก็เพราะว่า มันมีคุณลักษณะสำคัญสามข้อ คือ มันกำลังแทนที่ไวรัสสายพันธุ์อื่นอย่างรวดเร็ว มีการกลายพันธุ์ที่ส่งผลกระทบต่อบางส่วนของไวรัสที่น่าจะมีความสำคัญ และ การกลายพันธุ์เหล่านั้น ส่วนหนึ่งได้แสดงให้เห็นในห้องแล็บแล้วว่า ได้เพิ่มความสามารถที่ไวรัสจะส่งผลกระทบต่อเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

คุณลักษณะทั้งสามข้อนี้ เป็นเหตุผลอธิบายว่า ทำไมไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ จึงสามารถแพร่กระจายได้ง่ายมากขึ้น

แต่ก็อย่างที่บอก ยังมีความไม่แน่นอนโดยสิ้นเชิง ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ อาจกลายเป็นสายพันธุ์ปกติได้ง่ายมากขึ้นก็ได้ เมื่ออยู่ในที่และในเวลาที่เหมาะสม

ได้มีการตรวจพบไวรัสสายพันธ์ใหม่ในอังกฤษเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน แต่พอถึงเดือนพฤศจิกายน ผู้ติดเชื้อในลอนดอนได้รับไวรัสสายพันธุ์นี้ประมาณหนึ่งในสี่ และเพิ่มเป็นเกือบสองในสามในกลางเดือนธันวาคม

นักคณิตศาสตร์ได้ใช้ตัวเลขการแพร่กระจายของไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อพยายามคำนวณว่า สายพันธุ์ใหม่นี้อาจจะแพร่กระจายได้ดีกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ มากเพียงไร แต่จริง ๆ แล้วก็ยากที่จะชี้ถึงสาเหตุที่แท้จริงว่า เป็นเพราะพฤติกรรมของไวรัสหรือพฤติกรรมของคนกันแน่

ตัวเลขที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ได้พูดถึงคือ สายพันธุ์นี้อาจจะสามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าสายพันธุ์เก่าถึง 70% และอัตราการสืบพันธุ์อาจเพิ่มขึ้นประมาณ 0.4

ขณะเดียวกัน ดร.อีริค โวลซ์ จากอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอนก็บอกว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่กำลังโตเร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ และนักวิทยาศาสตร์ได้บอกกับเขาว่า ตัวเลขทั้ง สูงกว่าและต่ำกว่า 70% ได้ ซึ่งต้องจับตามอง

สิ่งที่สงสัยต่อไปคือ มันจะติดเชื้อเพิ่มหรือไม่

นักไวรัสวิทยาของมหาวิทยาลัยนอตติ้งแฮม กล่าวว่า จำนวนหลักฐานที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณชนนั้น ไม่เพียงพอที่จะฟันธงลงไปอย่างชัดเจนหรือหนักแน่นว่า ไวรัสได้ทำให้มีการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่

คำถามที่อยากรู้ต่อมาคือ แล้วมันได้แพร่เชื้อไปไกลแค่ไหนแล้ว

จากรายงานของบีบีซี ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจจะพบทั่วอังกฤษ ยกเว้นในไอร์แลนด์เหนือ แต่ก็กระจุกตัวอยู่ในลอนดอน ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคตะวันออกของอังกฤษ และดูเหมือนว่าไม่พบผู้ติดเชื้อในที่อื่น ๆ ของอังกฤษ

ข้อมูลจากเน็กซ์ สเตรน ซึ่งได้ตรวจรหัสพันธุกรรมของตัวอย่างไวรัสชนิดต่าง ๆ ทั่วโลก ชี้ว่า ผู้ป่วยในเดนมาร์ก และออสเตรเลียได้เดินทางมาจากอังกฤษ และในเนเธอร์แลนด์ก็มีการรายงานว่ามีผู้ป่วยที่มาจากอังกฤษหลายคน

แต่เรื่องแบบนี้ก็ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ไวรัสที่ตรวจพบครั้งแรกในอู่ฮั่นไม่ใช่ไวรัสสายพันธุ์เดียวกับที่พบในที่อื่น ๆ ทั่วโลก การกลายพันธุ์ของไวรัส รหัส D614G ที่เกิดขึ้นในยุโรปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ได้กลายเป็นไวรัสที่มีอิทธิพลทั่วโลก ขณะที่ไวรัส A222V แพร่กระจายไปทั่วยุโรปและเกี่ยวข้องกับวันหยุดในช่วงฤดูร้อนในสเปน

สิ่งที่เราได้รู้เกี่ยวกับการกลายพันธุ์ใหม่ในขณะนี้มาจากการเผยแพร่การวิเคราะห์สายพันธุ์ใหม่ในเบื้องต้นที่มีการเปิดเผยว่า มีการเปลี่ยนแปลงที่มีแนวโน้มสำคัญ 17 อย่าง และมีการเปลี่ยนแปลงของผิวโปรตีน (spike protein) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ไวรัสใช้เปิดประตูไปสู่เซลล์ในร่างกายของคน

ผลการศึกษาของศาสตราจารย์ รวี คุปต์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ชี้ว่า การกลายพันธุ์ใหม่นี้สามารถเพิ่มการติดเชื้อได้ถึงสองเท่าจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ได้กลายพันธุ์สูงผิดปกติ สายพันธุ์นี้จะไปโผล่ในผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งไม่สามารถที่จะโจมตีไวรัสได้ แต่ร่างกายได้กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ให้ไวรัสกลายพันธุ์

ไม่มีหลักฐานว่าการกลายพันธุ์ทำให้มีการติดเชื้อที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตมากขึ้น แต่ก็ยังจำเป็นต้องจับตาไว้ เพราะ แค่การแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นก็เพียงพอที่จะสร้างปัญหาให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ ได้

อย่างไรก็ดี มีคำยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่า วัคซีนที่ผลิตได้ในขณะนี้ จะป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างแน่นอน โดยอย่างน้อยก็ในขณะนี้ เพราะวัคซีนเด่น ๆ ทั้งสามตัว สามารถพัฒนาการตอบสนองของภูมิคุ้มกันต่อผิวโปรตีนที่มีอยู่ได้ และวัคซีนจะฝึกระบบภูมิคุ้มกันเพื่อโจมตีส่วนต่าง ๆ ของไวรัสได้ ดังนั้นแม้ว่าบางส่วนของผิวโปรตีนได้กลายพันธุ์ วัคซีนก็ยังทำงานได้

แต่หากไวรัสกลายพันธุ์เพิ่มอีก ก็น่าเป็นห่วง เพราะไวรัสมีแนวโน้มที่จะหลบเลี่ยงวัคซีนได้ การหลบเลี่ยงหนีวัคซีน จะเกิดขึ้นเมื่อไวรัสเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะหลบเลี่ยงผลกระทบทั้งหมดของวัคซีน และยังสามารถแพร่เชื้อต่อคนได้ต่อไป และนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่น่ากังวลที่สุดสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับไวรัสตัวนี้

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในอังกฤษเป็นหลักฐานล่าสุดที่ชี้ว่า ไวรัสโคโรนายังคงปรับตัวอยู่ตลอดเวลา และเข้าตำรา “ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายก็เข้ามาแทรก” สิ่งที่ทำได้ในยามนี้ คือตั้งการ์ดให้ดี เพราะเผลอเมื่อไหร่ อาจ “ซวย” ได้ทุกคนในทุกที่และทุกเวลา

Back to top button