ราซัค กับ หุ้นมาเลเซียพลวัต2015

นับแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย กลายเป็นตลาดที่ผันผวนมากที่สุดตลาดหุ้น ไม่ใช่เพราะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดไม่ดี หรือ เพราะเงินทุนต่างชาติไหลเข้าออกสร้างความปั่นป่วน แต่เพราะการเมืองเกี่ยวกับความชอบธรรมในตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งพรรคอัมโน มีบทบาทครอบงำทิศทางตลาดหุ้นมากเกินขนาด


นับแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา ตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย กลายเป็นตลาดที่ผันผวนมากที่สุดตลาดหุ้น ไม่ใช่เพราะผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดไม่ดี หรือ เพราะเงินทุนต่างชาติไหลเข้าออกสร้างความปั่นป่วน แต่เพราะการเมืองเกี่ยวกับความชอบธรรมในตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค แห่งพรรคอัมโน มีบทบาทครอบงำทิศทางตลาดหุ้นมากเกินขนาด

ตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์ กลายเป็นตลาดที่โยงใยเข้ากับเกมการเมืองอย่างแยกไม่ออก เมื่อใดมีข่าวร้ายของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัค ตลาดหุ้นจะดิ่งวูบ แต่หากมีข่าวดี ตลาดหุ้นก็จะพุ่งขึ้นหวือหวา

ความเสี่ยงของนักลงทุน เกิดจากความเสี่ยงของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัคอย่างเข้มข้น ถือเป็นเรื่องปกติยามนี้ (ดูความเคลื่อนไหวของดัชนี FBKLCI ประกอบ)

 นับตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม สื่อตะวันตกอย่าง The Wall Street Journal ของสหรัฐฯ ลงข่าวว่า คณะกรรมการเฉพาะกิจมาเลเซียซึ่งกำลังดำเนินการสืบสวนกองทุนแห่งรัฐ (รูปแบบหนึ่งของกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติ-SWF) ชื่อ วัน มาเลเซีย ดิเวลอปเมนต์ บีเอชดี (1MDB) ที่มีปัญหาขาดสภาพคล่อง ได้มีคำสั่งอายัดบัญชีธนาคารที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหา จำนวน 6 บัญชี จากบัญชีที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ 17 บัญชีของธนาคาร 2 แห่ง แต่ไม่เปิดเผยชื่อเจ้าของบัญชีหรือชื่อธนาคารที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังได้เปิดเผยเอกสาร 9 ชุด แสดงถึงเส้นทางโอนเงิน “ที่สูญหายไประหว่างการทำธุรกรรมการเงินข้ามประเทศ” จากกองทุน 1MDB เข้าบัญชีส่วนตัวของ นายนาจิบ ราซัค อย่างละเอียด โดยสำนักงานปราบปรามการทุจริตแห่งมาเลเซียระบุว่า  เงินดังกล่าวที่พบในบัญชีของนายนาจิบเป็นเงินบริจาคที่มาจากตะวันออกกลาง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อผู้บริจาค

 ทันทีที่มีข่าว นายกรัฐมนตรี ราซัคและคนใกล้ชิด ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และขู่ว่าจะฟ้องร้องสื่อดังกล่าว แถมยังบอกว่า มี “เกลือเป็นหนอน” ทั้งจากคนในพรรค และจากฝ่ายค้านอย่าง อันวาร์ อิมราฮิม ที่จะโค่นเขา

การตอบโต้แบบสูตรสำเร็จของคนมีตำแหน่งในสังคม หากเป็นเวลาปกติก็ทำให้เรื่องเงียบหายไปโดยเร็ว แต่บังเอิญมีคนรับลูกสื่ออเมริกันเต็มตัว โดยเฉพาะคนที่ชื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีระดับรัฐบุรุษ ที่ออกโรงมาเรียกร้องให้นายราซัครับผิดชอบต่อเรื่องที่อื้อฉาวที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองมาเลเซีย เพราะนายราซัคไม่สามารถชี้แจงถึงที่มาของเงินดังกล่าวได้ จึงไม่อาจจบลงได้ง่ายๆ

ดัชนีตลาดหุ้นมาเลเซียแกว่งไกวไหวโอนไปมารุนแรงจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงของนายกรัฐมนตรีราซัคตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน และคาดว่าจะดำรงไปจนกว่าราซัคจะออกจากตำแหน่ง

สื่อออนไลน์ที่เริ่มต้นจากเว็บไซต์จุดกระแสที่ชื่อซาราวัครีพอร์ต เว็บไซต์ที่ก่อตั้งในลอนดอน โดยชาวอังกฤษที่เกิดในรัฐซาราวัค ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น “วิกิลีกส์แห่งรัฐซาราวัค” ได้ทำการแพร่รายละเอียดของความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว แล้วก็มีสื่ออื่นๆ นำไปขยายความหรือต่อยอดไปทั่ว

ข้อมูลเพิ่มเติมระบุว่า ราซัคทำการยักยอกเงินผ่านแหล่งที่แตกต่างกัน 8 แห่ง รวม 2 ล้านริงกิต ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.พ.-เม.ย. ที่ผ่านมา โยงใยเกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB เข้าสู่บัญชีธนาคารแอมแบงก์ สาขากัวลาลัมเปอร์ที่มีชื่อของนาจิบ ราซัค และภรรยา ที่โยงใยเข้ากับเจ้าชายเตอร์กีแห่งซาอุดีอาระเบีย เจ้าของบริษัทปิโตรซาอุดิ (PetroSaudi)  โดยมีการนำเสนอรูปภาพของราซัคกับครอบครัวไปเที่ยวช่วงหยุดฤดูร้อนร่วมกับเจ้าชายเตอร์กี และผู้อำนวยการอีกสองคน ซึ่งอ้างว่าเป็นการพยายามเอาใจราซัคเพื่อขอทุนจาก 1MDB

รัฐบาลและนายราซัค พยายาม “ปิดฟ้าด้วยฝ่ามือ” เต็มที่ เริ่มแต่ปิดปากสื่อในกรณี 1MDB หลายวิธี รวมทั้งสร้างสื่อเทียมขึ้นมาตอบโต้ข้อกล่าวหา และให้กระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งห้ามหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับในเครือ  The Edge  Media Group วางจำหน่ายเป็นเวลา 3 เดือน และมีการปลดและโยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนขนานใหญ่

ยิ่งพยายามปิดบังมากเท่าใด แนวร่วมฝ่ายต่อต้านความชอบธรรมของนายราซัค ยิ่งเพิ่มปริมาณและคุณภาพมากขึ้น มีการก่อตั้งกลุ่มคนใส่เสื้อเหลืองที่เขียนคำว่า  เบอร์ซีห์ 4 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การประท้วงที่หน้าอกเสื้อ

แรงประท้วงยิ่งเพิ่มน้ำหนักเมื่อ ศาลสูงของมาเลเซีย ได้ชี้ขาดให้ยกเลิกคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยห้ามวางจำหน่ายหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับในเครือ The Edge  Media Group โดยให้เหตุผลว่า ไม่ได้ให้โอกาสแก่ทางบริษัทในการชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น แนวร่วมต่อต้านราซัคยิ่งขยายตัว ถึงขนาดที่ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย ออกมาพูดตรงๆ ว่า  ชาวมาเลเซียมีสิทธิที่จะได้รับคำตอบเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของกองทุน 1MDB ในทุกคำถาม

 กลุ่มเบอร์ซี่มาเลเซียพากันจัดการชุมนุมเดินขบวนบนท้องถนนของกรุงกัวลาลัมเปอร์หลายครั้งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีราซัค พ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่ได้รับอนุญาต โดยรัฐบาลมาเลเซียอ้างผิดกฎหมายพร้อมกับจับกุมผู้ประท้วง รวมถึงยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยส่งกำลังตำรวจกระจายกำลังเข้าคุมพื้นที่หลายส่วนในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ห้ามการแจกจ่ายใบปลิว และห้ามใส่เสื้อเหลือง  พร้อมกันนั้นก็มีการจัดกลุ่มผู้สนับสนุนนายราซัค โดยใส่เสื้อสีแดง  

ล่าสุด ความชอบธรรมของนายราซัคเกือบจะสิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐหรือเอฟบีไอ เริ่มทำการสอบสวนคดีฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับกองทุน 1MDB หลังมีรายงานว่า อดีตสมาชิกพรรครัฐบาลมาเลเซียคนหนึ่ง ถูกจับกุมขณะกำลังจะเดินทางไปยังสหรัฐฯ เพื่อยื่นเรื่องร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบในคดีดังกล่าว รวมถึงกรณีที่สวิตเซอร์แลนด์ได้อายัดบัญชีของ 1MDB ในธนาคารสวิสแล้ว และเจ้าหน้าที่ฮ่องกงเริ่มทำการตรวจสอบข้อร้องเรียนเกี่ยวกับกองทุนดังกล่าว

ระเบิดเวลาที่ใกล้จะออกฤทธิ์ในยามที่ทุนสำรองระหว่างประเทศต่ำสุดในชาติชั้นนำอาเซียนเช่นนี้ ยิ่งทำหุ้นดัชนี FBKLCI ผันผวนง่ายยิ่งขึ้น โจทย์ใหญ่คือ ตลาดหุ้นที่ถูกขับเคลื่อนด้วยกระแสอื้อฉาวทางการเมืองเช่นนี้ ทำให้พื้นฐานของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนถูกมองข้ามอย่างน่าเสียดาย

Back to top button