‘แอน JKN’..เนื้อร้ายตลาดหุ้น.!?

กลายเป็นเรื่องอื้อฉาว “บั่นทอนความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย” อีกครั้ง กรณี จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ “แอน JKN” ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอ JKN ถูกศาลแขวงพระนครใต้ สั่งออกหมายจับ


กลายเป็นเรื่องอื้อฉาว “บั่นทอนความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทย” อีกครั้ง กรณี จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ หรือ “แอน JKN” ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอบริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ถูกศาลแขวงพระนครใต้ สั่งออกหมายจับ “แอน JKN” หลังมีพฤติการณ์หลบหนี ไม่มาฟังคำพิพากษา คดีที่นายระวีวัฒน์ มาศฉมาดล (หมอเส) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานฉ้อโกง 30 ล้านบาท

กรณีดังกล่าวสอดคล้องกระแสข่าวว่า “แอน JKN” เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปยังประเทศเม็กซิโก พร้อมมีการแปลงเงินบาท มูลค่า 6,000 ล้านบาท เป็น “คริปโทเคอร์เรนซี” ไปด้วย.!?

ย้อนหลังไปเมื่อ 5 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการกล่าวโทษผู้กระทำความผิด 3 ราย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN, นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ และนางสาวพิมพ์อุมา จักราจุฑาธิบดิ์ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)

กรณีร่วมกันกระทำหรือยินยอมให้มีการลงข้อความเท็จและหรือทำบัญชีไม่ครบถ้วน ไม่ถูกต้อง และไม่ตรงต่อความเป็นจริงในงบการเงินประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีงวดไตรมาส 1/2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ และนำส่งหรือเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2566 ที่มีงบการเงินเท็จ..!!

สาระสำคัญคือก.ล.ต.ตรวจทานข้อมูลงบการเงินประจำปี 2563-2566 ของ JKN พบว่า สินทรัพย์ประเภทลิขสิทธิ์มีจำนวนเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ไม่สอดคล้องกับรายได้จากการขายลิขสิทธิ์ของ JKN และยอดลูกหนี้การค้า ณ สิ้นปีมีมูลค่าใกล้เคียงหรือสูงกว่ารายได้ค่าลิขสิทธิ์ น่าเชื่อว่าการขายลิขสิทธิ์แต่ละปี JKN ไม่สามารถเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าได้หรือเก็บเงินได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

จึงมีประเด็นสงสัยความสมเหตุสมผลของการซื้อลิขสิทธิ์ และความมีอยู่จริงของลิขสิทธิ์รายการ รวมทั้งความมีตัวตนอยู่จริงของลูกหนี้การค้าและการขายลิขสิทธิ์ให้ลูกหนี้การค้า

โดยปรากฏข้อเท็จจริงพิจารณาได้ว่า นายจักรพงษ์ และนางสาวพิมพ์อุมา ร่วมกันสั่งการหรือกระทำการสร้างรายการเจ้าหนี้ปลอมและลูกหนี้ปลอม เพื่อนำไปบันทึกในสมุดบัญชีและงบการเงินงวดประจำปี 2566 และเอกสารบัญชีสำหรับงวดไตรมาส 1/2567 และเอกสารหรือรายงานอื่น ที่เกี่ยวข้องของ JKN ส่งผลให้งบการเงินของ JKN แสดงยอดรายได้และหนี้สินสูงกว่าที่ควรจะเป็น…

อีกทั้งพบการบันทึกบัญชีเจ้าหนี้ค่าลิขสิทธิ์ไม่ถูกต้องตามงวดที่เกิดขึ้นจริง การกระทำดังกล่าวส่งผลให้งบการเงินปี 2566 ของ JKN แสดงยอดหนี้สินและสินทรัพย์น้อยกว่าความเป็นจริง แต่นำเจ้าหนี้การค้ามาบันทึกบัญชีปี 2567 เพื่อลวงบุคคลใด ๆ ว่า ปี 2567 JKN มีเจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นและนำเจ้าหนี้การค้าดังกล่าว ไปใช้สิทธิออกเสียง เพื่อเลือกผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ JKN

นอกจากนี้ JKN (โดยนายจักรพงษ์) ได้ส่งหรือเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2566 และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปีที่มีงบการเงินเท็จดังกล่าวต่อก.ล.ต.อีกด้วย..

การกระทำของบุคคลรวม 3 รายข้างต้น เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 312 และมาตรา 281/10 ประกอบมาตรา 300 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ก.ล.ต จึงกล่าวโทษบุคคลทั้ง 3 รายต่อ DSI เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

หากว่ากระแสข่าวการหลบหนีของ “แอน JKN” เป็นเรื่องจริง นั่นเท่ากับว่าจะเป็นอีกหนึ่งเนื้อร้ายก้อนโต..ที่กัดกินความเชื่อมั่นตลาดหุ้น..เฉกเช่นที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา..!!

Back to top button