“รมว.พลังงาน” มั่นใจเงินเฟ้อปี 65 กรอบ 1-3% เล็งใช้ “คนละครึ่ง” เร็วขึ้น

“รมว.พลังงาน” มั่นใจเอาอยู่เรื่องเงินเฟ้อ เชื่อปี 65 อยู่ในกรอบ 1-3% ย้ำ ปชช.อย่าตื่นตระหนกเกินเหตุ พร้อมพิจารณาเลื่อนใช้ "คนละครึ่งเฟส 4 " เร็วขึ้น


นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน กล่าวว่า เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อในประเทศไทย จะอยู่ในกรอบ 1-3% แม้สินค้ามีราคาแพงขึ้น ส่วนหนึ่งอย่ามองเพียงเฉพาะเจาะจงแค่ราคาสินค้าเพียงอย่างเดียวต้องดูวิธีบริหารจัดการอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งจากการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) การควบคุมอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในเป้าหมาย แต่หากเงินเฟ้อขยับใกล้เคียง 3% จะมีการประเมินและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะตนเองที่ได้ให้ความสำคัญ และประชุมกับกระทรวงการคลังอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้ละเลยแต่อย่างใด

ขณะที่รัฐบาลได้พยายามที่จะบริหารจัดการดูแลอยู่แล้ว ซึ่งหากสินค้าตัวไหนที่สามารถตรึงราคาได้ รัฐบาลก็พยายามจะดำเนินการตรึงราคาสินค้า แต่บางส่วนก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกลตลาดเสรี และจำเป็นเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นในกรณีที่สินค้าเกิดความขาดแคลนหรือมีความต้องการมากขึ้น ทั้งนี้การตรึงราคาสินค้าบางส่วนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในวงกว้าง และไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกมากจนเกินไป และยืนยันรัฐบาลได้เตรียมรับมือไว้แล้ว

ขณะเดียวกันสาเหตุของการเกิดอัตราเงินเฟ้อที่ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการของผู้บริโภคที่มีมากขึ้น ทำให้มีความต้องการสูงขึ้น ขณะที่ในช่วงโควิดที่ผ่านมาการผลิตมีการชะลอตัว เป็นผลมาจากการล็อกดาวน์ ทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าที่จะขยายกำลังการผลิต และการผลิตสินค้าบางส่วนยังคงชะงักงั้น เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน แต่ตนเองมองว่าเป็นเพียงเหตุการณ์ชั่วคราว และเชื่อว่ากำลังการผลิตจะมากขึ้น หากควบคุมการแพร่ระบาดได้ดี

ทั้งนี้สำหรับมาตรการ “คนละครึ่ง” เฟส 4 จะเร่งหารือกับกับกระทรวงการคลังซึ่งมีกำหนดการไว้อยู่แล้ว โดยต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจในไทย และดูสถานการณ์โลกด้วยว่ามีผลกระทบอย่างไร ส่วนจะเร่งมาตรการนี้ให้เร็วขึ้นหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ ก็ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ แต่ต้องหารือกันอีกที และอาจจะมีมาตรการอื่นๆ ด้วย ซึ่งมีการพิจารณาอยู่

นอกจากนี้การนำเม็ดเงินของรัฐบาลไปลงกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากนั้น เรื่องนี้ทางสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กำลังดูรายละเอียดโครงการของทุกกระทรวงอยู่ เพื่อนำไปสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานสู่ท้องถิ่นให้มากขึ้น

สำหรับมาตรการจูงใจซื้อรถ EV จะมีการนำเสนอมาตรการนี้ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในต้นปีนี้  โดยนักลงทุนญี่ปุ่นก็พร้อมที่มาลงทุนในไทย ซึ่งเตรียมประกาศเจตนารมย์ที่เป็นทางการในเร็วๆ และตนเองพร้อมที่จะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศญี่ปุ่นประมาณช่วงเดือนเมษายนนี้ ซึ่งจะไปนำเสนอเรื่องของความพร้อมและความคืบหน้าในการเดินหน้าพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีการพัฒนาในหลายๆด้าน รวมถึงไทยก็จะนำเสนอแผนส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรม และ นวัตกรรมใหม่ ๆ อีกทั้งมีแผนที่จะดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีศักยภาพสูงเข้ามาพำนักระยะยาวในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ประเด็นการที่รัฐบาลเล็งให้มีการจัดเก็บภาษีคริปโทฯ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ต้องสอบถามกระทรวงการคลัง

Back to top button