STA-STGT เสน่ห์ที่เลือนหาย

ปรากฏการณ์ “กำไรวูบ” ที่เกิดขึ้นกับ 2 หุ้นแม่ลูก STA และ STGT จนเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่าอนาคตหุ้น 2 แม่ลูกจะเป็นอย่างไร


ปรากฏการณ์ “กำไรวูบ” ที่เกิดขึ้นกับ 2 หุ้นแม่ลูกบริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA และบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT จนเกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่าอนาคตหุ้น 2 แม่ลูกจะเป็นอย่างไรและยังเป็น “หุ้นคุณค่า” ที่น่าลงทุนอยู่อีกหรือไม่..!?

เริ่มจากอภิชาตบุตร STGT งบ Q2/65 กำไรสุทธิเหลือเพียง 616 ล้านบาท ลดลงกว่า 92% ผลพวงจากปริมาณขายลดลงเหลือ 7,600 ล้านชิ้น (จาก supply เพิ่มขึ้น) และราคาขายเฉลี่ยลดลงมาเหลือเพียง 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1,000 ชิ้น หรือลดลง 63% (จากการแข่งขันตลาดโลกสูงขึ้น)

ทำให้ Gross Margin ปรับลดเหลือเพียง 20% จากเคยทำได้ระดับ 67% ช่วงไตรมาสเดียวกันปีก่อน จากราคาขายที่ปรับตัวลงอย่างมากนั่นเอง.!!

ขณะที่ STA งบ Q2/65 กำไรสุทธิเหลือเพียง 1,140 ล้านบาท ลดลงกว่า 77.4% แม้ว่ารายได้จากกลุ่มยางธรรมชาติเพิ่มขึ้น 25% แต่รายได้จากการขายถุงมือยาง ลดลงกว่า 50.6% ส่งผลให้มีรายได้รวมลดลงกว่า 6.1%

ทำให้ Gross Margin รวมอยู่ที่ระดับ 15.2% จากระดับ 36.7% ช่วงไตรมาสเดียวกันปีก่อน โดย Gross Margin ของกลุ่มยางธรรมชาติอยู่ที่ 13% และ Gross Margin ของถุงมือยางอยู่ที่ 22.5%

ถือว่าระดับ Gross Margin ปรับตัวลงมาจากราคาขายเฉลี่ย (ASP) ของถุงมือยางปรับลง จากการแข่งขันสูงขึ้น จากผู้ผลิตที่จีนและมาเลเซีย แม้ ASP ของยางธรรมชาติ ปรับตัวขึ้นตามจากความต้องการซื้อ (Demand) สูงขึ้น ตามอุตสาหกรรมยางรถยนต์ก็ตาม

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ดีมานด์ถุงมือยางปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงเป็นแรงกดดันต่อ STGT ทำให้เริ่มมีการปรับลดประมาณการกำไรปีนี้เหลือเพียง 2,700 ล้านบาท จากปีก่อนเคยทำได้ 23,700 ล้านบาท ด้วยปริมาณขายลดลง 13-15% ที่สำคัญราคาถุงมือยางมีโอกาสปรับลงอีกอย่างต่อเนื่อง

อีกความเสี่ยงคือการขยายโรงงานที่ล่าช้า ทำให้เสียโอกาสและอาจเป็นแรงกดดันจากซัพพลายมากขึ้นในอนาคตได้..

เช่นเดียวกับ STA รายได้และกำไรสุทธิมีทิศทางเดียวกับ STGT จากราคายางเฉลี่ยที่ปรับตัวลง และการรับรู้รายได้และกำไรจากการถือหุ้น STGT กว่า 50% ลดลงตามไปด้วย

บทสรุปของหุ้น STA และ STGT คือผ่านพ้นช่วงเวลาที่ดีที่สุดไปแล้ว แม้ว่าราคาหุ้นสะท้อนภาพดังกล่าวมาพอสมควรแล้วก็ตาม แต่ด้วยเสน่ห์ด้านปัจจัยพื้นฐาน มีการ “เปลี่ยนแปลงเชิงลบ” ทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล (ดิวิเดนด์ยีลด์) ที่เคยเป็นจุดขายหุ้น STGT และ STA ก็ผ่านพ้นช่วงหอมหวานไปแล้วเช่นกัน

ด้วยสถานการณ์หุ้น STA และ STGT ที่เปลี่ยนไปเช่นนี้..

คงต้องบอกได้คำเดียวว่า “คนในควรต้องออก..แต่คนนอกไม่ควรเข้า” อย่างยิ่ง..!

Back to top button