หุ้นน่าเล่น?

ทันทีที่เห็นดัชนีพยายามสู้แรงขายเพื่อวิ่งกลับขึ้นไปยืนในแดนบวก “โมนิก้า” ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างแรง เพราะเป็นการบวกสวนตลาดหุ้นทั่วโลก


ทันทีที่เห็นดัชนีพยายามสู้แรงขายเพื่อวิ่งกลับขึ้นไปยืนในแดนบวก “โมนิก้า” ก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างแรง เพราะเป็นการบวกสวนตลาดหุ้นทั่วโลกที่แดงปรื๊ดกันถ้วนหน้า และเมื่อย้อนกลับมาดูปัจจัยภายในที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก็ไม่มีเรื่องไหนที่จับต้องได้เลยสักอย่าง แถมน้ำมันดีเซลก็มีราคาสูงกว่า 30 บาท และมีแนวโน้มที่จะทะลุขึ้นไป 32 บาทแบบนี้..ต้นทุนชีวิต และต้นทุนธุรกิจบานแน่เจ้าค่ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า ดัชนียังไปได้ไม่ไกลเหมือนที่หลายคนคาดหวัง หลังองค์ประกอบที่จะเป็นตัวดันดัชนียังเป็นแค่นามธรรม และการที่ดัชนีประคองตัวปิดที่ระดับ 1,375.69 จุด ลบไป 3.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.18 หมื่นล้านบาท จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เดี๊ยนต้องตื่นเต้นตามไปด้วย เพราะเห็นกันเต็มสองลูกตาว่า วอลุ่มก็ไม่หนุน คนเล่นก็ถอนสมอ หรือแม้กระทั่งงบไตรมาส 1 ก็ยังไม่รู้จะออกหน้าไหนพะย่ะค่ะ

ขนาดหุ้น TTB ที่มีเสียงเชียร์มากมาย และเป็นหุ้นใหญ่ที่ทุกคนเล่นได้ ยังถูกรินขายเป็นเวลาครึ่งเดือนแบบนี้ “โมนิก้า” คงไม่ต้องหาคำพูดไหนมาอธิบายให้เสียเวลา เพราะโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยมันเอื้อให้เล่นแค่นี้ หุ้นถึงย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 1.80 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 574 ล้านบาท และมีโอกาสทรุดตัวลงไปปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 1.70 บาทค่อนข้างสูงนะจ๊ะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น DELTA เพื่อชี้ให้เห็นการพักตัวในจังหวะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกแดงแป๊ด ถือเป็นเรื่องปกติของหุ้นที่มีแต่กองทุนหัวดำเล่นเป็นหลัก แต่ถ้ามองจากการเคลื่อนตัวที่พยายามกระชับฐานแนวรับให้แน่น ก็เป็นจังหวะเข้าไปช้อนหุ้นเพื่อทำกำไรสั้น ๆ หลังหุ้นเคลื่อนตัวไปมาในกรอบ 71-75 บาทเป็นเวลาร่วม 2 สัปดาห์ เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 74 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.33% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 537 ล้นบาท น่าสนจ้า!

เหมือนกับในรายของ PTTGC ก็อยู่ในข่ายที่นักวิเคราะห์เชียร์ให้ลุยสุดซอย เพราะสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจปิโตรเคมีชัดขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ราคาหุ้นไต่เพดานขึ้นต่อเนื่อง จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 41 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 517 ล้านบาท และเป็นการยืนปิดเหนือยอดเก่า 2 ครั้งก่อนแบบนี้..ตามตำราเทคนิคเขาบอกให้เล่นต่อ เพราะหุ้นกำลังเปลี่ยนฐานให้สูงขึ้นน่ะซี

ส่วนรายที่มาแบบเซียนเหยียบเมฆต้องยกให้กับพ่อดอกมะลิ JAS  หลังพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.68 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 11.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 851 ล้านบาท และเป็นภาพที่ไม่เคยได้เห็นในรอบ 2-3 ปีแบบนี้ มันเป็นจังหวะของการโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะได้แรงหนุนจากการซื้อหุ้นคืนเป็นกำลังเสริม เพื่อสร้างแวลูให้กับตัวหุ้นในอนาคต มันเป็นเกมที่ขาลุยต้องเกาะติดนะจะบอกให้

คล้ายกับสถานการณ์ของ BTS ก็มีประเด็น กทม. ได้อนุมัติชำระหนี้ก้อนแรกคืนเป็นจำนวน 2.30 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นค่าติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ส่วนก้อนสองที่เป็นค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยาย ก็เตรียมที่จะชำระหนี้คืนจำนวน 5.30 หมื่นล้าน “โมนิก้า” มองเป็นข่าวดีที่ส่งผลโดยตรงต่อตัวบริษัท แต่เหตุไฉนราคาหุ้นกลับไม่ตอบรับข่าวดังกล่าว ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 5.70 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.79% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 530 ล้านบาทแบบเหงา ๆ ล่ะคุณพี่

สำหรับเสือซุ่มที่มาแบบต่อเนื่อง และเป็นหุ้นตัวเต็งที่หลายสำนักแนะนำให้เล่น ต้องมองไปที่น้องมิ้น MINT ก่อนใครเพื่อน เพราะปีนี้จะเป็นปีทองของบริษัทเต็ม ๆ “โมนิก้า” เลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 32.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 322 ล้านบาท คือจังหวะของการสะสมกำลัง เพื่อทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม แถมราคาเป้าที่เขาให้กันไว้ก็อยู่แถว 41 บาทเสียด้วย จึงมีแก๊ปให้เล่นกันเพียบพะย่ะค่ะ

ตบท้ายกันที่เรื่องชวนงงกันดีกว่า เพราะในช่วงที่ราคาทองขึ้นต่อเนื่อง แต่หุ้นที่ขายทองอย่าง AURA กลับขยับตัวออกด้านข้างเพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นประเด็นที่แฟนคลับสงสัยเหมือนกับตัวอีฉัน แถมวานนี้หุ้นยืนปิดที่ระดับ 13.90 บาท ราคาหุ้นไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11 ล้านบาทแบบนี้ มันเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดว่า บริษัทไม่ได้ประโยชน์จากราคาทองที่ขึ้นใช่ไหมเอ่ย?

Back to top button