
ขึ้นแบบกั๊ก ๆ
วานนี้มีหลากหลายเรื่องราวที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยเม้าท์มอยสนุกสนาน แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่เหมือนที่ทุกคนคาดหวัง
วานนี้มีหลากหลายเรื่องราวที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยเมาท์มอยสนุกสนาน แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรในกอไผ่เหมือนที่ทุกคนคาดหวัง (ดัชนีทำท่าจะขึ้นแรง แต่สุดท้ายก็อ่อนเป็นมะเขือเผา) “โมนิก้า” ถึงพยายามกระตุ้นเตือนนักลงทุนทุกหมู่ทุกเหล่าอย่าได้หวั่นไหวไปกับอารมณ์ของตลาดหุ้น เพราะเมื่อใดที่นักลงทุนไม่เป็นตัวของตัวเอง เมื่อนั้นนักลงทุนจะได้ยินเรื่องราวที่ไม่เป็นเรื่องเยอะขึ้น จนตัวนักลงทุนต้องตัดขายหุ้นขาดทุนเหมือนเช่นก่อนหน้านี้นะคะ
ประกอบกับท่าทีของนักลงทุนต่างชาติ (เขาเรียกว่า พวกนกรู้) ต้องการสร้างผลกำไรให้กับพอร์ตตัวเองด้วยการขายหุ้น “โมนิก้า” ถึงต้องการให้นักลงทุนยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในส่วนนี้ให้ดีเป็นพิเศษ เพราะถ้าเกิดรายการแอกซิเดนบางอย่างขึ้นมากะทันหัน หุ้นกลุ่มบลูชิพคงโดนนักลงทุนต่างชาติรุมชำเราอย่างหนัก จนแทบจะหาทางกลับบ้านไม่เจอแน่ ๆ พะย่ะค่ะ
เหมือนกับการย่อตัวของดัชนีวานนี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่นักลงทุนต่างชาติมากเป็นพิเศษ เพราะนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวตั้งใจจะถอนทุนคืนมาตั้งนานแล้ว เมื่อสบช่องได้โอกาสเทขายหุ้นทำกำไรแบบเนื้อ ๆ เน้น ๆ ก็เลยปล่อยของออกไปกว่า 2.46 พันล้านบาท ขณะที่โบรกเกอร์ก็ผสมโรงขายนิด ๆ หน่อย ๆ 51 ล้านบาท ดัชนีถึงไหลจากจุดไฮของวันที่ระดับ 1,231.02 จุด ลงมาปิดที่ 1,214.39 จุด เหลือบวก 3.45 จุด ด้วยมูลค่า 5.08 หมื่นล้านบาท ตั้งใจใช่ไหม?..บอกมาซะดี ๆ
หุ้นใหญ่ที่ตกเป็นเป้าถูกถล่มรายแรกคงหนีไม่พ้น TRUE แถมหลายคนยืนยัน นั่งยัน และนอนยันว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเยอะเกินไป จึงเปิดช่องให้นักลงทุนสถาบันระบายของออกไปบางส่วน ส่งผลให้วานนี้หุ้นทรุดลงมาปิดที่ระดับ12.10 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.87 พันล้านบาท งานนี้ถ้าคิดจะซื้อควรรอให้ราคาหุ้นนิ่งกว่าที่เป็นอยู่อีกนิดหนึ่งนะตัวเอง
ส่วนที่ไม่ต้องรอ และกระโจนใส่ได้เต็มที่ก็คือ WHA หลังสงครามการค้าระหว่าง “อเมริกา” กับ “จีน” คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นสุด ๆ วานนี้เลยเห็นวอลุ่มซื้อมารอตั้งแต่หัววัน แถมการถีบตัวขึ้นแรงก็เพิ่งเริ่มต้นวานนี้ “โมนิก้า” ถึงต้องการให้นักลงทุนประเมินการยืนปิดที่ระดับ 3.30 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.44 พันล้านบาท โดยไฮเดิมครั้งก่อนอยู่ที่ 3.80 บาทแบบนี้..น่าตามไปดูไหมจ๊ะ
สำหรับรายที่ประหลาดสุด ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นปั๊มน้ำมัน OR แบบไม่ลังเลใจ เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ หลังนกรู้เก็งงบไตรมาส 1 ปี 68 จะออกมาดี จนสุดท้ายงบก็ออกมาดีจริง ๆ แต่กลายเป็นว่า นักเล่นพากันขายหุ้นทิ้งซะงั้น! อีฉันเลยไม่แน่ใจว่า การย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 13.60 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 631 ล้านบาท เหมาะต่อการทยอยเก็บหรือยังคะ
หากยังแปลกไม่พอ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมาดูหุ้น SCGP เพื่อชี้ให้เห็นการไต่เพดานขึ้นต่อเนื่องของราคาหุ้นมันผิดปกติไปหน่อย! เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า กำไรไตรมาส 1 ปี 68 ลดลง 50% แต่ราคาหุ้นกลับทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 17.20 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 9.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 605 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้อีฉันอธิบายไม่ถูกจริง ๆ นะจะบอกให้
ส่วนรายที่อธิบายได้อย่างแม่นยำ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้นยางตัวทีเด็ดอย่าง NER แบบไม่ลังเลใจ เพราะของมันเห็นทนโท่ว่า ต่อจากนี้รายได้และกำไรจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายโรงงาน และการต่อยอดธุรกิจ อีฉันเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 4.44 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 8.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 166 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 4.60 เท่าลงทุนได้แน่นอน..ไม่เชื่อลองถามใครดูก็ได้ค่ะ
โมนิก้า: และทีมงาน