SNPS โชว์กำไร Q1 โต 88% แตะ 20 ล้านบาท ตอบรับนโยบายสมุนไพรแห่งชาติ

SNPS โชว์งบผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 กำไรแตะ 19.56 ลบ. โตแรง 88.26% กวาดรายได้รวม 120.83 ลบ. โต 19.84% สอดรับนโยบายภาครัฐ ส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพร หนุนรายได้จากการจำหน่ายสารสกัดสมุนไพร


ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สเปเชี่ยลตี้ เนเชอรัล โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SNPS เปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัทประจำไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวม 120.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 19.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีรายได้รวม 100.83 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.17 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 88.26% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 10.39 ล้านบาท

การเติบโตของรายได้เป็นผลจากการที่ บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สารสกัดสมุนไพรมาตรฐาน (API) อยู่ที่ 48.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 73.66% สืบเนื่องมาจากกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ (Product Innovation) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่อย่างตรงจุด

อีกทั้งรองรับการผลักดันการใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ที่ภาครัฐมีนโยบายส่งเสริม และบรรจุรายการยาสมุนไพรในทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อให้เป็นทางเลือกในการรักษาให้กับประชาชน ซึ่งในปัจจุบัน สมุนไพรไทยจำนวนมากมีผลการวิจัยรับรองว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพร้อมกับการขยายโอกาสทางธุรกิจในอนาคตด้วยการเสนอโซลูชันที่ครบวงจร (End-to-End Solution) ซึ่งส่งผลให้ลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เพิ่มปริมาณการสั่งซื้อทั้งสินค้าเดิมและสินค้าใหม่ ซึ่งจะเป็นส่วนที่ช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจรับจ้างพัฒนาและผลิตสินค้าภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (ODM) เติบโตขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 38.32% ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่  36.21% เป็นผลมาจากการใช้ประโยชน์จากกำลังการผลิตของ บริษัทฯ ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการได้ดีมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Optimization) ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เพื่อใช้สำหรับการคัดเลือกซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพสูง

รวมถึง บริษัทฯ มีอัตราส่วนต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหาร (SG&A) อยู่ที่ 20.87% ปรับลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 26.38% เป็นผลมาจากการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่รายได้เติบโตขึ้น

“เราอยู่ในตำแหน่งในการคว้าโอกาสจากกระแสสุขภาพโลกซึ่งตลาดสารสกัดสมุนไพรโลกเติบโตจากความต้องการ ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติในอุตสาหกรรมยา อาหาร และความงามอย่างต่อเนื่อง และการย้ายฐานการผลิตมาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยโมเดลธุรกิจที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์เข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัล มุ่งมั่นที่จะรักษาอัตราการเติบโตสูงเกินอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการขยายอัตรากำไรอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนการลงทุนในนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน” ดร.ธีรญา กล่าว

Back to top button