คลังจ่อผ่อนเกณฑ์ “ภาษีเงินได้ต่างประเทศ” หวังดึงเงินกลับ-ส่งเสริมลงทุนในไทย

นายภาณุวัฒน์ เหลืองวิไล รองอธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากร กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาแนวทางดึงเงินทุนจากต่างประเทศกลับเข้าไทย  โดยเฉพาะกรณีที่คนไทยนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศในทุกรูปแบบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากรายได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ และนำกลับเข้ามาในประเทศ โดยเป็นแรงจูงใจให้ผู้มีรายได้ในต่างแดน ตัดสินใจนำเงินกลับประเทศเร็วขึ้น และส่งเสริมการลงทุนในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ กรมสรรพากร กำลังพิจารณาการกำหนดเงื่อนไขรายได้จากต่างประเทศ หากนำเข้ามาภายในปีเดียวกับที่เกิดรายได้ หรือภายในปีถัดไป จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากพ้นระยะเวลาดังกล่าว จะต้องเสียภาษีตามปกติในอัตราก้าวหน้า 5-35%

“เช่น หากมีรายได้ปี 2568 นำเงินรายได้นั้นเข้ามาในประเทศภายในปี 2568 หรือ 2569 จะไม่มีภาระภาษี แต่หากนำเข้ามาหลังจากนั้นจะต้องเสียภาษีตามเกณฑ์ปกติ รองอธิบดีกรมสรรพากร กล่าว พร้อมระบุว่า การผ่อนปรนดังกล่าวจะช่วยลดความกังวลของผู้ที่มีรายได้ในต่างประเทศ และมีส่วนช่วยสนับสนุนการลงทุนภายในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

นายภาณุวัฒน์ ยังชี้ให้เห็นว่า แนวคิดนี้เป็นการให้แรงจูงใจแบบมีกรอบเวลา เพื่อเร่งให้คนไทยที่ไปลงทุนต่างประเทศหรือลงแรงสร้างรายได้จากต่างแดน กล้าตัดสินใจนำเงินกลับเข้ามาหมุนในประเทศมากขึ้น โดยไม่กังวลภาระภาษีจนเกินไป

ทั้งนี้ กฎหมายภาษีเงินได้จากต่างประเทศ ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ระบุว่า รายได้จากต่างประเทศที่นำเข้ามาในไทย ไม่ว่าช้าหรือเร็วเพียงใด จะต้องถูกรวมคำนวณในฐานภาษีของปีที่นำเข้ามา ส่งผลให้เกิดเสียงวิจารณ์ในหมู่ผู้มีรายได้จากต่างประเทศว่า เป็นข้อจำกัดที่อาจชะลอการนำเงินกลับเข้าประเทศ

อย่างไรก็ดี สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 หากมีการนำเข้าประเทศ หลังจากปีที่รายได้นั้นเกิดขึ้น จะยังคงได้รับยกเว้นภาษีตามหลักเกณฑ์เดิม

ดังนั้นกรมสรรพากรอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างพ.ร.ฎ. เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้คนไทยที่มีรายได้ในต่างประเทศ นำเงินกลับเข้ามาลงทุนในประเทศ