จนตรอกถึงเก็บภาษี IPO

วันก่อน “โมนิก้า” เตรียมจะพูดถึงเจ้า “กระทรวง ทบวง กรม” ที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินตลาดทุนแบบจัดเต็ม แต่เผอิญมีเรื่องตลกร้ายจีดีพีเกิดขึ้นมาก่อน


วันก่อน “โมนิก้า” เตรียมจะพูดถึงเจ้า “กระทรวง ทบวง กรม” ที่เกี่ยวข้องกับตลาดเงินตลาดทุนแบบจัดเต็ม แต่เผอิญมีเรื่องตลกร้ายจีดีพีเกิดขึ้นมาก่อน อีฉันเลยต้องเจียดพื้นที่ให้กับประเด็นดังกล่าวสักหน่อย เพราะผู้คนมากมายต่างหัวร่อกับคำแถลงของเด็กน้อย “เผ่าภูมิ” กันอย่างดาษดื่น พร้อมกับมีการสวนกลับอย่างถึงพริกถึงขิงว่า คนตลาดหุ้นไม่ชอบกินหญ้าหวานนะตัวเอง

ที่น่าสนใจคือ วันก่อนดันมีข่าวสรรพากรภายใต้การกุมบังเหียนของ “ปิ่นสาย” ดันเกิดอุตริอะไรก็มิทราบได้! ประกาศโพล่งเตรียมนำเสนอรัฐบาลเก็บภาษี IPO พร้อมกับยอมรับเสียงอ่อย ๆ ว่า การจัดเก็บภาษีปี 68 พลาดเป้าไปเยอะ จึงต้องหาทางเก็บภาษีอื่นมาโปะของเดิมแบบนี้..คนในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนเขาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เล่นง่ายไปหน่อยนะน้อง!

เนื่องจากข้ออ้างเก็บภาษีพลาดเป้าของคุณน้อง มันทำให้แมงเม้าท์ยกตัวอย่างตั๋ว PN ของนายกฯ “อิ๊ง” ขึ้นมาตอกหน้าเจ้ากรมอย่างจัง (ตกลงเลี่ยงภาษีไหม?) แถมยังแนะเจ้ากรมให้ไปดูรายละเอียดตรงนี้จะดีกว่า เพราะที่ผ่านมาการลงทุนในตลาดหุ้นมีการเสียภาษีทุกช็อต รวมทั้งในยุค “ลุงตู่” ก็มีแนวคิดจะเก็บภาษีกำไรหุ้น แต่ก็มีเสียงค้านดังกระหึ่ม จนต้องเลิกทำไปไม่ใช่เหรอจ๊ะ

ที่สำคัญคือ เดี๊ยนเป็นหนึ่งในคนที่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีกำไรหุ้น แต่มีข้อแม้ว่า ต้องทำในจังหวะที่ตลาดหุ้นไทยมีการซื้อขายคึกคัก และนักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งเสียงส่วนใหญ่ของคนในตลาดหุ้นเข้าใจเรื่องภาษีหุ้นมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ในปัจจุบันไม่เอื้อให้เก็บภาษีหุ้นเลยสักอย่าง แล้วคุณน้องจะชงเรื่องเก็บภาษีกำไร IPO ทำหอกอะไรมิทราบ หรืออยากหาแสงให้ตัวเอง เลยต้องใช้วิธีนี้เหรอคะ

สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากจะบอกก็คือ มูลค่าการซื้อขายทุกวันนี้ยังมีไม่ถึง 4 หมื่นล้าน ขณะที่การซื้อขายเมื่อก่อนในแต่ละวันต้องมี 7-8 หมื่นล้าน หรือแม้กระทั่งสัดส่วนการซื้อขายรายย่อยทุกวันนี้เหลือไม่เกิน 30% เทียบกับเมื่อก่อนสัดส่วนรายย่อยอยู่เกิน 50% เดี๊ยนเลยไม่เข้าใจว่า นโยบายภาษีดังกล่าวจะช่วยตลาดหุ้นไทยได้อย่างไร? ในเมื่อตัวแปรหลายอย่างไม่เป็นใจน่ะซี

ยิ่งมองในมุมของ IPO ที่ลดน้อยถอยลงเรื่อย ๆ เพราะการบริหารเศรษฐกิจที่เฮงซวยของรัฐบาล เลยทำให้บริษัทที่เตรียมตัวไอพีโอต้องตัดใจถอนสมอ เพราะตัวเลขกำไรไม่ได้ตามเกณฑ์ของ ตลท. หรือแม้กระทั่งไอพีโอที่เข้าเทรดวันแรกกลับเกิดปรากฏการณ์ไม่ทำเงินให้รายย่อยแบบนี้ เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า เกิดเป็นรายย่อยนี้มันช่างลำบากเหลือเกินนะพ่อปิ่นสาย!

หากนับรวมหุ้นที่ติดดอยเข้าไปอีก จนต้องซื้อถัวเฉลี่ยเพื่อต้นทุนจะได้ลดลง “โมนิก้า” ยิ่งหงุดหงิดกับเจ้ากรมหัวสี่เหลี่ยมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เพราะเหมือนเป็นการตอดกำไรจากรายย่อยทุกเม็ด (หากขาดทุนรายย่อยไปเคลมภาษีคืนได้ไหมล่ะ) และอย่าลืมว่า ไอพีโอช่วงหลัง ๆ เป็นเอสเอ็มอีที่ต้องการเข้าถึงแหล่งทุนในต้นทุนต่ำกันทั้งนั้น..เจ้ากรมจะมาสร้างเงื่อนไขให้คนในตลาดหุ้นกังวลใจทำมะเขืออะไร!

งานนี้หากเจ้าตัวจะแก้ตัวว่า โยนหินถามทาง? อีฉันก็ต้องพูดจากใจจริงว่า นี่เป็นความคิดที่บ้องตื้นเสียเหลือเกิน! เพราะจังหวะนี้เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น และต้องช่วยสนับสนุนกันและกัน เพื่อทำให้รายย่อยกล้าลงทุนอีกครั้ง “โมนิก้า” เลยหวังในใจลึก ๆ ว่า คงไม่มีพวกบ้า ๆ บอ ๆ ออกมาแสดงความคิดเห็นที่ไม่เป็นประโยชน์กับตลาดหุ้นอีก..ลำพังลุ้นให้ตลาดหุ้นยืนบวก ก็เหนื่อยพอแล้วค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button