
นายก “แพทองธาร” ปักหมุดยุโรป ลุยซอฟต์พาวเวอร์! ดันมวย-อาหารไทยหนุนเศรษฐกิจโต
ประมวลภารกิจลอนดอน-โมนาโก! นายก “แพทองธาร” นำทีมรุกเศรษฐกิจยุโรป ใช้ “ซอฟต์พาวเวอร์” เป็นเครื่องยนต์ใหม่ ลุย “มวย-อาหาร” สร้างแต้มต่อเศรษฐกิจไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ “ทีมไทยแลนด์” เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรและราชรัฐโมนาโก ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค.68 เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของไทยในเวทีโลก โดยใช้จุดแข็งของประเทศในด้านกีฬา อาหาร และการท่องเที่ยว เป็นเครื่องมือเชื่อมโยงเศรษฐกิจและสร้างโอกาสการค้า การลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรป ซึ่งเป็นตลาดศักยภาพสูง
โดยเมื่อเวลา 16:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลอนดอน ตรงกับเวลา 22:00 น. ของประเทศไทย วันที่ 21 พ.ค.68 นางสาวแพทองธาร พร้อมคณะเดินทางไปยัง Fight City Gym ย่าน Moorgate ใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกศิลปะการต่อสู้และฟิตเนสครบวงจรที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะด้านการสอนมวยไทย คิกบ็อกซิ่ง มวยสากล และ BJJ (Brazilian Jiu-Jitsu)
ผู้นำรัฐบาลไทยได้พบกับนักมวยและครูฝึกชาวอังกฤษ รวมถึง Mr. Mandeep Singh Johal (Mani Johal) ผู้ก่อตั้งค่าย, Mr. Leon Jason Malcolm หัวหน้าโค้ชมวยไทย และ Mr. Ross James Adkin เทรนเนอร์ส่วนตัว พร้อมรับฟังข้อเสนอจากผู้ประกอบการเกี่ยวกับการพัฒนามวยไทยในระดับนานาชาติ ทั้งในด้านการตลาด การจัดการแข่งขัน และการฝึกอบรมบุคลากร พร้อมหารือถึงปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาตทำงาน และการยกระดับมาตรฐานค่ายมวยไทยในต่างประเทศ
ภารกิจครั้งนี้มีผู้แทนไทยร่วมเดินทางหลายภาคส่วน ได้แก่ นายเอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์, นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ, นายโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยและผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานฝ่ายกีฬามวย คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้แทนจากภาคเอกชนในอุตสาหกรรมกีฬาและส่งออกกว่า 25 คน
ขณะที่เวลา 16:30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลอนดอน ตรงกับเวลา 22:30 น. ของประเทศไทย วันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปยัง Wing Yip Superstore สาขา Cricklewood หนึ่งในห้างค้าปลีกอาหารเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ
โดยมี Ms. Sujinda Munnaputtakun Trustee of Wing Yip & Brother Foundation และ Mr. Junny Shek ผู้จัดการสาขา ให้การต้อนรับ พร้อมนำเยี่ยมชมโซนสินค้านำเข้าจากไทย ซึ่งมีมากกว่า 1,000 รายการ ครอบคลุมทั้ง ข้าวหอมมะลิ ผลไม้สด อาหารแช่แข็ง ทุเรียนหมอนทอง ผักไทย เครื่องปรุงรส ขนม และเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้บริโภคอังกฤษ
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหารในการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และจะเดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดต่างประเทศ โดยในโอกาสนี้ได้เชิญผู้บริหาร Wing Yip เข้าร่วมงาน Thaifex 2025 ที่ประเทศไทยด้วย ซึ่งได้รับความสนใจในการเพิ่มนำเข้าสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวจากไทย
สำหรับ มูลค่าการค้ารวมระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (EU) ในปี 2567 อยู่ที่ 42,090 ล้านยูโร โดยไทยส่งออกไป EU มูลค่า 14,656 ล้านยูโร และนำเข้า 27,434 ล้านยูโร ทำให้ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 20 ของ EU ในด้านการนำเข้า และอันดับที่ 29 ในด้านการส่งออก
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ไทยได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับกลุ่มประเทศ EFTA ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ขณะเดียวกันการเจรจา FTA “ไทย–EU” ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลไทยตั้งเป้าจะสรุปข้อตกลงภายในปีนี้ เพื่อเปิดตลาดใหม่ และลดอุปสรรคทางการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทยในอนาคต