PRINC สู่เครื่องมือแพทย์

ผลพวงจากการใช้ “กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง” ต่อเนื่องมายาวนานหลายปี มีการเก็บเล็กผสมน้อย ไล่ตีเมืองขึ้นโรงพยาบาลที่อยู่เมืองรองมาเรื่อย ๆ


ผลพวงจากการใช้ “กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง” ต่อเนื่องมายาวนานหลายปี มีการเก็บเล็กผสมน้อย ไล่ตีเมืองขึ้นโรงพยาบาลที่อยู่เมืองรองมาเรื่อย ๆ ทำให้วันนี้พอร์ตของบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ใหญ่บึบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด…

สะท้อนได้จากปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือรวม 16 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 1 แห่ง ใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ มีจำนวนเตียงให้บริการกว่า 1,310 เตียง และมีศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง อาทิ ศูนย์หัวใจแบบครบวงจร ศูนย์รักษามะเร็ง ศูนย์สมองและระบบประสาท และศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก เป็นต้น รวมทั้งมีธุรกิจบริการศูนย์ฟื้นฟูและดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุคลินิกเวชกรรมรวม 20 แห่ง และมีคลินิกเสริมความงามและผิวพรรณ 18 แห่ง

พอใหญ่ถึงจุดหนึ่ง PRINC ก็ต้องมีซัพพลายเชนเป็นของตัวเอง จากเมื่อก่อนที่ต้องพึ่งพาคนอื่น ซื้อจากบริษัทอื่น อย่างพวกอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ มาวันนี้ต้องมีซัพพลายเชนของตัวเอง…

เลยเป็นที่มาของการส่งบริษัทลูกที่ชื่อ บริษัท พริ้นซิเพิล เน็กซ์ จํากัด (PNEXT) เข้าลงทุนในบริษัท เซอร์วิโซ เฮลท์แคร์ โซลูชั่น จํากัด (Serviso) ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการทําให้เครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ (Sterile Processing Service) การให้บริการบําบัดมูลฝอยติดเชื้อทางการแพทย์ (Medical Waste Sterilization Service) และการให้บริการด้านวิศวกรรมชีวการแพทย์ (Biomedical Engineering Service) ให้แก่ลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนที่ดําเนินธุรกิจสถานพยาบาลในประเทศ

ด้วยการซื้อหุ้นสามัญจากผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 120,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% คิดเป็นมูลค่า 13.37 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกรรมนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2568 นี้

ดีลนี้น่าสนใจ อันดับแรก จะทำให้ PRINC สามารถบริหารซัพพลายเชนได้ง่ายขึ้น…เมื่อสั่งอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ชุดใหญ่เพื่อกระจายโรงพยาบาลในเครือ จะเกิดการประหยัดต่อขนาด หรือ Economy of Scale ซึ่งราคาน่าจะสมเหตุสมผลกว่าการสั่งซื้อจากภายนอก

สิ่งที่ตามมา 1) จะมีอำนาจในการต่อรองเยอะขึ้น และ 2) ต้นทุนจะลดลง

นั่นหมายถึงโอกาสที่กลุ่ม PRINC จะมีมาร์จิ้น หรือมีอัตรากำไรสุทธิที่สูงขึ้น…

ในขณะที่ธุรกิจอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ เป็นกลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยคาดว่ามูลค่าตลาดในประเทศจะเติบโตเฉลี่ย 5.5-7.0% ต่อปี และการส่งออกจะเติบโตเฉลี่ย 6.5-7.5% ต่อปี ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากการเข้าสู่สังคมสูงวัย การเพิ่มขึ้นของโรคอุบัติใหม่ และการเติบโตของตลาดการแพทย์ในเอเชีย

มิน่าละ Serviso ซึ่งเปิดมาแค่ปีเดียว (ก่อตั้งวันที่ 19 มิ.ย. 2567) ก็โชว์ผลงานโดดเด่นให้เห็นแล้ว โดยในปี 2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 12.20 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3.38 ล้านบาท และมีผลตอบแทนจากกำไรสุทธิต่อรายได้รวม 27.67%

โดย Serviso เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NAM กับบริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด (VMH) ในเครือบริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH สัดส่วนการถือหุ้นแบ่งเป็น NAM ถือหุ้น 60% และ VMH ถือหุ้น 40%

ก็น่าแปลกทั้ง ๆ ที่ Serviso อยู่ในโหมดการเติบโต แล้วเหตุใด VMH ถึงขายหุ้นทิ้งเสียล่ะ..?? บ่เข้าใจ๋

แต่ในมุมของ NAM การได้พันธมิตรใหม่อย่าง PRINC จะช่วยซีเคียวลูกค้าให้กับ Serviso ซึ่งมีโรงพยาบาลในเครือ 16 แห่ง

ฟาก PRINC จากเดิมเป็นแค่คู่ค้ากับ Serviso มาวันนี้อัพสถานะขึ้นเป็นเจ้าของให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย..!!

เมื่อ Serviso เติบโตดี PRINC ในฐานะผู้ถือหุ้นก็จะดีไปด้วย…ซึ่งไม่แน่การรุกสู่ธุรกิจเครื่องมือแพทย์ครั้งนี้ อาจทำให้ PRINC กลับมาโชว์กำไรงาม ๆ ก็ได้นะ…หลังจากไตรมาส 1/2568 พลาดท่ามีตัวเลขขาดทุนอยู่ที่ 99.19 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,480 ล้านบาท

แต่ถ้าหวังจะให้ PRINC จ่ายเงินปันผล…อันนั้นคงหวังสูงเกินไป

เพราะ ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ยังมีตัวเลขขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรสูงกว่า 1,248 ล้านบาท

เฮ้ย…สงสัยต้องรอชาติหน้าตอนบ่าย ๆ ละมั้ง..น่าเศร้าใจ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button