โบรกหั่นเป้า VGI แตะ 2.21 บาท หลังชวดไลเซนส์ Virtual Bank

“บล.กสิกรไทย” ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น VGI หลังไม่ได้รับใบอนุญาต Virtual Bank ขณะที่คงคำแนะนำ “ถือ” มองรายได้ดอกเบี้ยจากเงินสดส่วนเกินยังช่วยหนุนผลกำไรระยะกลาง


บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับ บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ภายหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยกลุ่มธุรกิจ BBL ซึ่งประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ VGI Sea Group Thailand Post และ SPC ไม่ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งธนาคารดังกล่าว

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยเคยประเมินไว้ก่อนหน้าว่า VGI มีแนวโน้มที่จะได้รับใบอนุญาต Virtual Bank และจะสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในปี 2571 ด้วยมูลค่าการลงทุนราว 4,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น (ROE) ในระดับ 12% ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของธนาคารเสมือนระดับโลก อย่างไรก็ตาม จากผลการประกาศล่าสุดของ ธปท. ทางฝ่ายวิจัยจึงได้ถอดโครงการดังกล่าวออกจากแบบจำลองมูลค่ากิจการ พร้อมปรับสมมติฐานว่า VGI จะบริหารเงินสดส่วนเกินโดยลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 2.5% ต่อปี ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะถอดโครงการ Virtual Bank ออกจากการประเมินมูลค่า แต่ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติสำหรับปีงบประมาณ 2569-2571 ที่ระดับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ที่ +8.5% / +9.4% / +8.5% ตามลำดับ สะท้อนผลบวกจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากเงินสดที่มิได้นำไปใช้ในการลงทุน

ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับหุ้น VGI แต่ได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงเล็กน้อย 2% เหลือ 2.21 บาทต่อหุ้น โดยการปรับลดดังกล่าวสะท้อนถึงการถอดสมมติฐานโครงการ Virtual Bank ออกจากการประเมินมูลค่า ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวประกอบด้วย 1) มูลค่าการลงทุนใน PLANB และ JMART จำนวน 0.26 บาทต่อหุ้น 2) มูลค่าธุรกิจหลักที่ประเมินด้วยวิธีการคิดลดกระแสเงินสด (DCF) จำนวน 1.01 บาทต่อหุ้น โดยใช้อัตราคิดลดแบบถ่วงน้ำหนัก (WACC) ที่ 8.7% และอัตราการเติบโตในระยะยาว (LTG) ที่ 3% และ 3) มูลค่าโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ 0.99 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิจัยระบุว่ามีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ควรติดตาม ได้แก่ 1) ความไม่แน่นอนของการได้รับใบอนุญาตดำเนินธุรกิจโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และ 2) ความเสี่ยงจากการที่ VGI อาจสูญเสียสิทธิ์การดำเนินธุรกิจสื่อโฆษณาบนระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวของ BTS โดยราคาหุ้น VGI ปัจจุบันยังซื้อขายในระดับที่สูง ด้วยอัตราส่วนราคาต่อกำไร (PER) สำหรับปี 2569 ที่ระดับ 44 เท่า ซึ่งสะท้อนผลจากการเพิ่มทุน 78% ที่แล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2567

Back to top button