หุ้นดังจะกลับมา?

สิ่งที่ “โมนิก้า” ใช้ในการวิพากษ์วิจารณ์เรื่องต่าง ๆ มักยึดตัวเลขสถิติเป็นประเด็นสำคัญ เพราะเชื่อว่า ตัวเลขไม่เคยโกหกใคร! ซึ่งเปรียบได้กับการเด้งกลับของดัชนีขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,300 จุด น่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 ออกมาดี ซึ่งทำให้นักลงทุนหวนกลับมาไล่ซื้อหุ้นอีกรอบ และถ้ามองเศรษฐกิจในไตรมาส 4 จะเห็นว่า มีเม็ดเงินสะพัดในระบบจริง ๆ นะออเจ้า

ประเด็นนี้ทำให้อีฉันเชื่อเหลือเกินว่า เศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวแรงอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการคนละครึ่งพลัสที่กระตุ้นกำลังซื้อของรากหญ้า สำทับด้วยโครงการเที่ยวดีมีคืนที่จูงใจให้คนระดับกลางจับจ่ายใช้สอยที่เมืองรองวงเงิน 2 หมื่นบาทแบบนี้ กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ “โมนิก้า” มองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,313.31 จุด บวกไป 18.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.81 หมื่นล้านบาท ถูกต้องทุกประการนะจ๊ะ

โดยเฉพาะในแง่ของ PE ตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในระดับ 12 เท่า ถือเป็นระดับที่มีความเสี่ยงต่ำสำหรับคนที่คิดจะเล่นสั้น ๆ ส่วนคนที่เน้นลงทุนระยะกลางถึงยาว ก็ทยอยเก็บหุ้นเพื่อรอรับปันผลได้เหมือนกัน “โมนิก้า” ถึงพยายามย้ำหัวหมุดให้แฟนคลับได้รับรู้ว่า โอกาสซื้อของดีราคาถูกมีให้เห็นเป็นระยะ ซึ่งเหมือนกับสถานการณ์ของหุ้นบางตัวที่ทิ้งตัวลงมาเรื่อย ๆ ก็เป็นช็อตที่น่าจับตานะจะบอกให้

รายแรกที่อยากเอ่ยถึงก่อนใครเพื่อนคือ TIDLOR หลังราคาหุ้นเริ่มย่อตัวลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 21 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 183 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 12 เท่า มันเป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” สนใจหุ้นตัวนี้มากเป็นพิเศษ เพราะเมื่อย้อนดูการเคลื่อนตัวก่อนหน้านี้เป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เป็นเวลา 4 เดือน โดยระหว่างทางมีการย่อตัวเป็นช่วง ๆ เลยทำให้อีฉันเชื่อว่า หุ้นตัวนี้จะกลับมาในไม่ช้าจ้า!

ส่วนรายที่คัมแบ็กด้วยการพลิกมีกำไรอย่างหุ้น BCPG ก็เป็นอีกช็อตที่น่าตามไปดูเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศทำเงินเป็นกอบเป็นกำ ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 8.10 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นขยับขึ้นได้อีกอย่างแน่นอน แถมเมื่อดูจากฟอร์มในการปั๊มกำไรที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลยไม่แปลกใจที่โบรกฯ ให้เป้าเกือบ 10 บาทนะจ๊ะ

เหมือนกับในรายของ GUNKUL ที่วันนี้เทรดบน PE 9 เท่า ทั้งที่ยังทำผลงานได้เสมอต้นเสมอปลาย “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนประเมินการยืนปิดที่ระดับ 1.92 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 34 ล้านบาท เป็นการปรับตัวขึ้นที่น้อยเกินไปหรือเปล่า? เพราะราคาหุ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังยืนอยู่แถว 2.20 บาทอยู่เลย แถมโบรกฯ ให้เป้าเหมาะสมอยู่ที่ 2.50 บาทแบบนี้..เขากลับมาแน่ค่ะ

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น TFG ขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเป็นหุ้นที่ทำผลงานครึ่งปีแรกได้ดี แต่ไตรมาส 3 ราคาหุ้นกลับมุดหัวลงลูกเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้อีฉันประหลาดใจอย่างยิ่ง ยกเว้นไตรมาส 3 พลิกขาดทุนขึ้นมา อันนี้ก็เข้าใจได้ว่าหุ้นต้องลง จึงอยากถามบรรดานักเล่นว่า การยืนปิดที่ระดับ 4.44 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 1.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 84 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 3.80 เท่า ยังมีความเสี่ยงที่หุ้นจะลงต่อไหม? ตัวเอง

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้นน้องใหม่ไฟแรงอย่าง 88TH   ถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่เข้าเทรดวันแรก จนลงไปทำโลว์ที่ระดับ 4.42 บาท ก่อนจะตีกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 4.74 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 11 เท่า ถือเป็นจุดที่ทำให้อีฉันสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะไตรมาส 4 เป็นช่วงที่บริษัทโกยรายได้ จึงเชื่อว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปยืนเท่าราคา IPO ที่ระดับ 5.45 บาทในไม่ช้าพะยะค่ะ

โมนิก้าและทีมงาน