พาราสาวะถี

โฉมหน้าของครม. แพทองธาร ชินวัตร ชุดปรับใหญ่ คงไม่มีอะไรให้ลุ้นหรือเซอร์ไพร์สมากกว่าที่ปรากฏเป็นข่าว


โฉมหน้าของครม. แพทองธาร ชินวัตร ชุดปรับใหญ่ คงไม่มีอะไรให้ลุ้นหรือเซอร์ไพร์สมากกว่าที่ปรากฏเป็นข่าว ด้วยเหตุว่า เป้าหมายของการเขย่าหากไม่นับภาวะแทรกซ้อนจากกรณีคลิปเสียงอันสะเทือนเลื่อนลั่น พรรคเพื่อไทยตั้งใจจะเขี่ยภูมิใจไทยทิ้งอยู่แล้ว เพื่อบรรลุเป้าหมายในการยึดเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคืน ซึ่งเมื่อเสียงเหลือเท่าที่มี ตำแหน่งเสนาบดีที่ว่างลงทันที 8 ที่นั่ง การผูกใจให้พรรคร่วมที่เหลืออยู่จับมือเดินด้วยกันต่อไป จึงหนีไม่พ้นการปูนบำเหน็จเพื่อเป็นการตอบแทน

ขณะที่คนที่อยู่ในข่ายได้รับเลือกจากทุกพรรคให้เป็นรัฐมนตรี ต่างทยอยรับเอกสารกรอกประวัติส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกันแล้ว หนนี้ว่าที่รัฐมนตรีทั้งหลายไม่ต้องเดินทางมากรอกเอกสารด้วยตนเอง ด้วยเหตุที่ว่าเกรงจะเกิดแรงกระเพื่อมภายใน โดยเฉพาะกับพรรคแกนนำอย่างเพื่อไทย ที่ปรากฏข่าว สส.ภาคอีสานแสดงความไม่พอใจต่อการจัดโผรอบนี้ ซึ่งก็เป็นข่าวแทบทุกครั้งในการปรับเปลี่ยนภายในรัฐบาล คนที่หวังไว้มากย่อมเกิดความน้อยใจ แต่ทำได้แค่โวยวายเพื่อให้พรรครับรู้เท่านั้น ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้

เป็นไปตามคาด พรรคร่วมรัฐบาล 3 ลำดับต้นอย่าง รวมไทยสร้างชาติ ประชาธิปัตย์ และชาติไทยพัฒนา ได้เก้าอี้ตามที่ต้องการ โดยในส่วนของ รทสช.แม้จะไม่ได้เพิ่มแต่การได้อยู่ที่เดิมถือว่าสมน้ำสมเนื้อแล้ว ขณะที่พรรคเก่าแก่ได้มาอีก 1 รัฐมนตรีช่วย เช่นเดียวกับชาติไทยพัฒนา โดยคนที่จะเข้ามารับตำแหน่งคงไม่หลุดไปจากนี้คือ ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรค กับ ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคปลาไหล

ในส่วนของประชาธิปัตย์ เดชอิศม์ ขาวทอง แม่บ้านพรรค ชัดเจนว่าจะขอสละเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุข เพื่อขอไปนั่งแท่นรัฐมนตรีช่วยมหาดไทยแทน ส่วนประภัตรถ้าไม่มีอะไรผิดเพี้ยนคงขอไปเป็นรัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์ ตามงานที่ตัวเองถนัด ด้านรวมไทยสร้างชาติในส่วนของกลุ่ม 18 ที่นำโดย สุชาติ ชมกลิ่น ต้องต่อรองกันหนักกับการขอกลับไปเป็นว่าการกระทรวงแรงงานอีกรอบ พร้อม ๆ กับแอ็กชันไม่พอใจที่ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้นั่งที่เดิม ด้วยเสียงส่อเสียด เหมือนเด็กเกเรแต่ได้อมยิ้ม

ว่าด้วยเงื่อนไขของเสี่ยเฮ้งนั้น พรรคแกนนำต้องคิดหนัก เนื่องจากมีปมกองทุนประกันสังคมซื้อตึกเจ้าปัญหาในราคาที่สูงเกินจริง ซึ่งเกิดขึ้นในยุคที่เจ้าตัวนั่งเป็นเจ้ากระทรวงสมัยรัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ คงต้องเกลี้ยกล่อมกันหนัก ขณะที่สัดส่วนเดิมที่เคยคุยกันไว้ในรายของ จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะมานั่งว่าการในโควตาของ รทสช. ก็ถูกปรับไปเป็นโควตาของเพื่อไทยแทน และจะไปว่าการกระทรวงพาณิชย์

พิจารณา จากแนวโน้มทางการเมืองที่จตุพรจะเดินต่อหลังการเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี คือการไปเป็นหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ ย่อมเป็นการการันตีได้ว่า การมาในสัดส่วนเช่นนี้ หมายถึงพรรคที่จะไปกุมบังเหียน เป็นเหมือนตัวแทนของพรรคเพื่อไทย เพื่อไปสู้ศึกเลือกตั้งในสนามภาคใต้ ที่ต่างรู้กันดีว่าคนปักษ์ใต้แอนตี้ไม่ยอมรับพรรคของนายใหญ่ การได้เป็นฝ่ายกุมอำนาจแล้วนั่งหัวหน้าพรรค จึงจะทำให้การทำงานการเมือง สร้างฐานเสียงมีพลังและง่ายขึ้น

รายชื่อที่ปรากฏตามหน้าสื่อเวลานี้ คุณแหล่งข่าวจากพรรคแกนนำยืนยันว่าแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นของจริง อาจมีเพียงกรณีพีระพันธุ์ที่คงต้องชั่งตวงวัดกันหนักหน่อย ด้วยเหตุของเรื่องราวที่ถูกร้องยังคาราคาซังกันอยู่ แต่การยกปมนี้มาเป็นข้อต่อรองก็ไม่ต่างจากที่แพทองธารก็เหมือนมีชนักปักหลังเหมือนกัน ยังไม่รู้ผลออกมาจะหมู่หรือจ่า งานนี้เลยจำใจหากตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาคุณสมบัติตามกฎเกณฑ์ ต้องปล่อยผ่านกันไปก่อน แล้วไปวัดดวงกันทีหลัง

หากมัวยึกยักจะไม่ทันเวลา ดังนั้น คาดกันว่าภายในสัปดาห์นี้ในส่วนของรายชื่อครม.แพทองธารชุดปรับใหญ่จะได้ข้อยุติ อีกประการที่มีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับชื่อของ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ลูกรักของ สมชาย-เยาวภา น้องเขยและน้องสาว ทักษิณ ชินวัตร นั้น เหมือนจะเป็นการทิ้งทวน สะท้อนภาพความไม่แน่นอนทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตหรือไม่ แต่อีกด้าน ถ้าไม่มีอคติพิจารณาด้วยความเป็นธรรม หลานนายใหญ่รายนี้ถือว่าเป็นนักวิชาการที่มีผลงาน ซึ่งการวางตัวเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการก็ถือเป็นการจัดคนให้เหมาะสมกับงาน

สุดท้ายย่อมหนีไม่พ้นข้อครหาจัดสรรเก้าอี้ในระบบเครือญาติ บ้านใหญ่ แก้ไขปัญหาทางการเมืองมากกว่าเรื่องบ้านเมือง ต้องไปรอดูกันหลังจากเห็นหน้าตาครม.ชุดปรับเปลี่ยนกันแล้ว ฟังถ้อยแถลงของแพทองธารหลังประชุมครม.เมื่อวันอังคาร แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ และเบาใจที่ยังสามารถประคองสถานะและทำให้รัฐบาลเดินต่อไปได้ พร้อมยืนยันยินดีที่จะไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญปมคลิปเสียง และยังย้ำด้วยว่า ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติเสียหายอะไร

นอกจากนั้น ยังได้ตัดบทยกมือไหว้นักข่าวตัดจบการแถลงข่าวทันที เมื่อถูกถามจะชี้แจงอย่างไรกับประชาชนส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจและเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทยได้มีการเตรียมการตั้งรับกับการเคลื่อนไหวของพวกขาประจำ กลุ่มที่ไม่เอารัฐบาลไว้แล้ว ความสำคัญที่เหล่าแกนนำพรรคนายใหญ่ให้น้ำหนักมากที่สุด อยู่ที่ความพึงพอใจของฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะบรรดาผู้นำเหล่าทัพมากกว่า

มาตรการตอบโต้กัมพูชาที่ได้ยกระดับความเข้มข้นจนถึงขณะนี้ สะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลปล่อยมือให้ฝ่ายกองทัพตัดสินใจได้อย่างเต็มที่ พร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง อาจจะมองได้ว่าเป็นการไถ่โทษจากคลิปเสียงดังว่า แต่ต้องอย่าลืมโจทย์ก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำให้บ้านเมืองสามัคคี ไม่ใช่มาคิดและทำกันหลังเกิดปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นมาตั้งแต่ดีลตั้งรัฐบาลพลิกขั้วแล้ว ส่วนการยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับกองทัพขนาดไหน ให้ดูที่การจัดตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่

อรชุน

Back to top button