
CGSI ชู PR9-BDMS หุ้นปลอดภัย รับรายได้ผู้ป่วยต่างชาติโต
CGSI แนะ “ซื้อ” หุ้น PR9 และ BDMS รับรายได้ผู้ป่วยต่างชาติเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุนกำไรและอัตรากำไรขั้นต้น พร้อมยก PR9 เป็น Top pick กลุ่มการแพทย์
นายเกษม พันธ์รัตนมาลา ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (CGSI) เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุด โดยระบุว่า บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 และ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่น่าสนใจ โดยเฉพาะจากแนวโน้มรายได้ผู้ป่วยต่างชาติที่ขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงปี 2568-2569 ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของโมเดลธุรกิจและศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
สำหรับ PR9 คาดว่าในไตรมาส 2/2568 รายได้จากผู้ป่วยต่างชาติจะเติบโตถึง 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 25% ของรายได้รวม โดยในไตรมาส 3/2568 และไตรมาส 4/2568 จะยังเติบโตต่อเนื่องที่ 60% และ 47% ตามลำดับ สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติจะเพิ่มเป็น 25-26% ของรายได้รวมในแต่ละไตรมาส โดยกลุ่มผู้ป่วยหลักมาจากประเทศกาตาร์และบังคลาเทศ
โดยคาดว่า PR9 จะมีรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติเติบโต 65% จากปีก่อน ในปี 2568 และเติบโตต่อเนื่องอีก 14% จากปีก่อน ในปี 2569 โดยรายได้จากผู้ป่วยในจะเติบโต 28% และ 11% ในช่วงสองปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้ผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นเป็น 47% และ 49% ของรายได้รวมในปี 2568 และ 2569 ตามลำดับ เทียบกับ 41% ในปี 2567 ส่งผลบวกต่ออัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า
สำหรับไตรมาส 2/2568 คาดว่า PR9 จะมีรายได้เติบโต 16% จากปีก่อน และ 2% จากไตรมาสก่อน ขณะที่อัตราส่วน EBITDA จะขยับขึ้นเป็น 25.6% จาก 22.4% ในปีก่อนหน้า และคาดว่ากำไรสุทธิจะอยู่ที่ 202 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% จากปีก่อน และ 1% จากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ CGSI แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PR9 โดยประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 33.5 บาท คิดเป็น P/E ที่ 26 เท่า ในปี 2569 โดยมีความเสี่ยงจากรายได้ผู้ป่วยต่างชาติลดลงหรืออัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้สูงกว่าคาด แต่หากรายได้และมาร์จินสูงกว่าคาด อาจหนุนราคาหุ้นปรับขึ้นต่อได้
ด้าน BDMS รายได้ผู้ป่วยต่างชาติในไตรมาส 1/2568 เติบโต 11% จากปีก่อนหน้า ขณะที่รายได้ผู้ป่วยในประเทศเติบโต 4% จากปีก่อน ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติอยู่ที่ 31% ของรายได้รวม และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 34.7% จาก 34.4% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้อ่อนตัวลงจาก 35.3% ในไตรมาส 4/2567 ส่วนอัตราส่วน EBITDA อยู่ที่ 25.2% ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า
CGSI คาดว่าอัตราส่วน EBITDA ของ BDMS จะลดลงเล็กน้อยเป็น 24.3% และ 24.0% ในปี 2568-2569 จาก 24.5% ในปี 2567 ตามแรงกดดันจากการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดผู้ป่วยต่างชาติ อย่างไรก็ตาม BDMS ได้ลงทุนยกระดับโรงพยาบาลในจังหวัดภูเก็ตทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต, กรุงเทพสิริโรจน์ และโรงพยาบาลดีบุก ให้มีความพร้อมรองรับกลุ่มเป้าหมายครบทุกระดับตลาด และมีส่วนแบ่งเตียงรวมสูงถึง 86% ของจังหวัด
ทั้งนี้ CGSI มองว่า ราคาหุ้น BDMS ที่ปรับตัวลงจากปัจจัยภายนอกในระยะสั้นเป็นโอกาสเข้าซื้อ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและนโยบายภาษีสหรัฐฯ น้อยกว่าหุ้นอื่นในกลุ่ม จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 34 บาท คิดเป็น P/E 31 เท่า ในปี 2569 พร้อมประเมินว่ากำไรต่อเนื่องในแต่ละไตรมาส และแนวโน้มผู้ป่วยต่างชาติที่แข็งแกร่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้นในระยะยาว