
DELTA กำไร Q2 ส่ออ่อนตัว รับบาทแข็ง-ต้นทุนกดดัน เคจีไอแนะ “ขาย” เป้า 67 บ.
บล.เคจีไอ คาดกำไรหลัก DELTA ไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท โต 5% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 12% เทียบปีก่อน แม้ยอดขายแข็งแกร่ง แต่ถูกกดดันจากเงินบาทแข็ง ค่าใช้จ่ายสิทธิบัตร และต้นทุนวัตถุดิบ พร้อมคงคำแนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมาย 67 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ในไตรมาส 2/2568 จะอยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท (ลดลง 12% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน เนื่องจากยอดขายแข็งแกร่ง ซึ่งจะทำให้กำไรจากธุรกิจหลักในครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 1.02 หมื่นล้านบาท ( เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน) คิดเป็น 56% ของประมาณการกำไรเต็มปี
โดยมีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนออก ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะอยู่ที่ 1,332 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน เพราะอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากกลุ่ม data center และ มีการร่นคำสั่งซื้อ (pull-in orders) เข้ามา บางส่วน ซึ่งจะทำให้ยอดขายในงวดครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 2,577 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน) คิดเป็น 51% ของ ประมาณการยอดขายเต็มปีของเรา
ส่วนอัตรากำไรมีแนวโน้มแผ่วลง ถึงแม้ว่าโครงสร้างยอดขายจะดี (ค่อนไปทางสินค้าที่มี margin สูง) ซึ่งช่วยหนุนอัตรากำไร แต่ฝ่ายวิเคราะห์เชื่อว่า จะมีน้ำหนักน้อยกว่า 1) การแข็งค่าของเงินบาท (อัตราแลกเปลี่ยนจากไตรมาสก่อนถึงปัจจุบัน (QTD) อยู่ที่ 33.1 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จาก 36.3 บาท/ดอลลาร์ฯ ในไตรมาส 2/2567 และ 33.6 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาส 1/2568
2) การปรับวัตถุดิบ และ 3) การตั้ง สำรองสินค้าคงคลังจากการที่อุตสาหกรรมยานยนต์อ่อนแอ ดังนั้น จึงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 2/2568 จะลดลงมาอยู่ที่ 25.4% (ลดลง 1.5ppts เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน, ลดลง 0.2ppts จากไตรมาสก่อน) ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในงวดครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 25.5% (เพิ่มขึ้น 1.4ppts เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน) จากสมมติฐานเต็มปีของเราที่ 25.1% และ เป้าของบริษัทที่ 25.0%
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายจะทรงตัวจากไตรมาสก่อน อยู่ที่ 12.3% (จาก 12.9% ในไตรมาส 2/2567 และ 12.2% ในไตรมาส 1/2567) เพราะค่าธรรมเนียม royalty fee น่าจะทรงตัว อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่าย บาง รายการที่เกี่ยวข้องกับค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย และ ค่าชดเชยจากประเด็นสิทธิบัตร (ระหว่าง DELTA Electronics Inc. (2308.TT) และ Vicor Corporation) ซึ่งจากการตรวจสอบล่าสุดกับทางบริษัท DELTA Taiwan ตกลงที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับ Vicor Corporation ในจำนวนที่ไม่เปิดเผย โดยค่าใช้จ่ายทาง กฎหมาย และ ค่าชดเชยที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้จะแบ่งกันระหว่าง DELTA Thailand และ DELTA Taiwan ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้น่าจะฉุดกำไรของ DELTA ในไตรมาส 2/2568 แต่จะเป็นการปลดปัญหาจากประเด็น นี้ออกไปจากบริษัท Valuation & action
ดังนั้น จึงยังคงคำแนะนำ “ขาย” DELTA โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 67.00 บาท อิงจาก PER ที่ 46.0 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต)