หุ้นแบงก์ เติมเต็ม ROE.!

ดูเหมือนช่วง 2-3 ปีมานี้ ท่าไม้ตายที่จะดึงนักลงทุนให้มาถือหุ้นแบงก์เปลี๊ยนไป๋แล้ว...จากในอดีตที่มุ่งเน้นโชว์ผลงานเติบโต ก็หันมาเน้นการเพิ่มผลตอบแทนให้มากขึ้น


ดูเหมือนช่วง 2-3 ปีมานี้ ท่าไม้ตายที่จะดึงนักลงทุนให้มาถือหุ้นแบงก์เปลี๊ยนไป๋แล้ว…จากในอดีตที่มุ่งเน้นโชว์ผลงานเติบโต ก็หันมาเน้นการเพิ่มผลตอบแทนให้มากขึ้น ทั้งในรูปของการจ่ายเงินปันผล หรือการซื้อหุ้นคืน ซึ่งทำให้ดิวิเดนด์ยีลด์หุ้นแบงก์ปรับสูงขึ้น..!!

ทำให้จากเดิมหุ้นแบงก์อยู่ในโซน Defensive Stock หรือหุ้นปลอดภัย มีความทนทานในทุกสภาพตลาด เพราะมีพื้นฐานแข็งแกร่ง ความเสี่ยงต่ำ ตอนนี้เริ่มขยับมาอยู่ในโซนหุ้น Dividend stock หรือหุ้นปันผลแทน…

  ทุกแบงก์กลายเป็นหุ้นยีลด์สูงทุกตัว ไล่มาตั้งแต่แบงก์สีม่วง บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ล่าสุดยีลด์สูงปรี๊ดดด 8%, แบงก์สีเขียว ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ยีลด์อยู่ที่ 6.42%, แบงก์สีน้ำเงิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ยีลด์ 5.36% ส่วนแบงก์สีฟ้า ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ 5.52%

ฟากธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB ยีลด์อยู่ที่ 6.87%, บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO ยีลด์ปาไป 7.31% ด้านธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP ยีลด์อยู่ที่ 6.42% และธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ยีลด์ 3.54%

ในขณะที่หลายแบงก์ต่างเดินหน้าสร้าง ROE (Return on Equity) หรืออัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น SCB ที่ตั้งเป้าจะเพิ่ม ROE ให้อยู่ที่ 10-11% ส่วน BBL ตั้งเป้าจะเพิ่ม ROE ให้แตะตัวเลขสองหลักภายใน 5 ปี ฟาก KBANK ตั้งเป้าดัน ROE แตะสองหลักภายในปี 2569 

ขณะที่ KTB ตั้งเป้าจะยกระดับ ROE ให้สูงกว่า 10% หลังจากไตรมาส 3/2568 ตัวเลข ROE ของธนาคารอยู่ที่ระดับ 12.80% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2568 ที่อยู่ 9.9% 

แล้วถ้าสังเกตจะเห็นว่า เป้าหมายทางการเงินของแบงก์ในช่วง 2-3 ปีมานี้ จะไม่ค่อยพูดถึงสินเชื่อเติบโตสักเท่าใด ถ้าจะพูดก็จะตั้งเป้าสินเชื่อเติบโตแบบ conservative หรือโตแบบอนุรักษ์นิยมแค่ 1-2% เท่านั้น โดยจะไปมุ่งการสร้าง ROE ให้เพิ่มขึ้นมากกว่า…

ที่เห็นเป็นรูปธรรมแล้ว อย่างบางแบงก์ก็ประกาศซื้อหุ้นคืน เช่น TTB จัดงบซื้อหุ้นคืนภายใต้วงเงินรวมไม่เกิน 21,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปี  (2568-2570) รวมทั้ง KBANK ที่ประกาศทุ่มงบ 8,800 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 47.39 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 2%

ขณะที่บางแบงก์ปรับเปลี่ยนนโยบายการจ่ายเงินปันผล หันมาจ่ายปันผลแบบจุก ๆ โดยเฉพาะ SCB ที่ถูกยกให้เป็นแบงก์ที่มีการจ่ายเงินปันผลเด่นสุดในกลุ่มแบงก์ไปแล้ว ส่วนบางแบงก์จากในอดีตไม่เคยจ่ายปันผลระหว่างกาล จู่ ๆ ก็ทำเซอร์ไพรส์จ่ายปันผลระหว่างกาลซะงั้น นั่นคือ KTB ซึ่งล่าสุดประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.43 บาท ทำเอาผู้ถือหุ้นแฮปปี้เอนดิ้งกันถ้วนหน้า

ซึ่งถ้าไปดู ROE ของแต่ละแบงก์ ณ สิ้นไตรมาส 3/2568 ส่วนใหญ่เป็นตัวเลขหลักเดียว โดย  KBANK มี ROE อยู่ที่  9.06%, BBL มี ROE อยู่ที่ 8.59%, TTB มี ROE อยู่ที่ 8.63%, KKP มี ROE อยู่ที่  8.90% และ BAY มี ROE อยู่ที่  7.78% มีแค่ 3 แบงก์ที่ ROE อยู่ระดับตัวเลขสองหลัก ได้แก่ SCB มี ROE อยู่ที่ 10.18% ส่วน KTB มี ROE อยู่ที่ 10.77% และ TISCO มี ROE อยู่ที่ 16.15%

นั่นแปลว่าคาแรคเตอร์ของหุ้นแบงก์ในยุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว จะมีความครบเครื่องเป็นทั้งหุ้น Defensive Stock และ Dividend stock นะสิ…

งั้นต้องมีติดพอร์ตไว้บ้างแล้วละ…

ขี้หมูขี้หมานอนรอกินเงินปันผลยีลด์ 5-6% ต่อปีเชียวนะ…

ดีกว่าเอาเงินไปฝากแบงก์กินดอกเบี้ยอีกนะตัวเอง..!? 

…อิ อิ อิ…

Back to top button