
หาแรงผลักดัน
ตลาดหุ้นไทยยังคงเงียบสงัด วอลุ่มซื้อขายบางเบาเหมือนเดิม โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET Index ปิดที่ระดับ 1,256.69 จุด บวกไป 3.98 จุด
ตลาดหุ้นไทยยังคงเงียบสงัด วอลุ่มซื้อขายบางเบาเหมือนเดิม โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET Index ปิดที่ระดับ 1,256.69 จุด บวกไป 3.98 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.08 หมื่นล้านบาท สะท้อนว่าตลาดยังคงรอแรงกระตุ้นใหม่ ๆ อย่างจริงจัง ก่อนหมดโค้งสุดท้ายของปี 2568 นี้ “โมนิก้า” ก็แอบหวังเล็ก ๆ ว่าภาครัฐน่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ออกมาให้ตลาดได้ยิ้มบ้าง มิฉะนั้นความหวังที่เราจะเห็นดัชนีกลับไปทดสอบ 1,300 จุด ก็อาจเป็นแค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ เท่านั้นเพคะ
ล่าสุดมีข่าวจากภาครัฐว่าจะชงเข้าครม. ที่ “โมนิก้า” มองว่า อาจช่วยจุดประกายความคึกคักให้ตลาดได้ไม่มากก็น้อย นั่นคือ โครงการแจกตั๋วเครื่องบินภายในประเทศให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 แสนคน ด้วยงบประมาณราว 700 ล้านบาท จ่ายแทนค่าโดยสาร 1,750 บาทต่อเที่ยว หรือไป-กลับ 3,500 บาท จำนวน 400,000 ที่นั่ง ให้บริการผ่าน 6 สายการบินชั้นนำ ได้แก่ การบินไทย, บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์ และ เวียตเจ็ทไทยแลนด์ แบบครบเครื่องไม่มีตกหล่นเจ้าค่ะ
“โมนิก้า” เชื่อว่าโครงการนี้ โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นเดือน ม.ค.–เม.ย. 2569 จะช่วยขยับแรงซื้อในกลุ่มท่องเที่ยวได้ไม่มากก็น้อย นักลงทุนก็คงเริ่มหันไปจับตาหุ้นโรงแรม สายการบิน และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกันอีกระลอก เพราะแม้ปัจจัยนี้จะไม่ได้แรงถึงขั้นทำให้ตลาดพุ่งทะยานแบบพรวดพราด แต่ก็ถือเป็นแรงหนุนเชิงบวก ที่ช่วยสร้างบรรยากาศคึกคักให้ตลาดได้ทีละนิด พูดง่าย ๆ คือ แม้โครงการนี้จะไม่ใช่ตัวเร่งชิ้นใหญ่ แต่ก็มากพอที่จะทำให้ตลาดที่กำลังแห้งเหี่ยวกลับมามีน้ำมีนวล ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกรอบเพคะ
โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากกระแสการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมาคึกคัก และมีแรงเก็งกำไรไหลเข้ามา เห็นจะหนีไม่พ้น MINT ที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นจนมาปิดที่ระดับ 22 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 804 ล้านบาท มิหนำซ้ำยังมีข่าวดีต่อที่สอง เข้ามาเสริมแรงเชียร์ให้แรงซื้อพุ่งแรงเข้าไปอีก เมื่อบอร์ดไฟเขียวโครงการซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 23 ล้านหุ้น ใช้วงเงิน 500 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 3 ธ.ค. 68–2 มิ.ย. 69 แบบนี้ไม่เรียกจัดหนักก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว งานนี้ “โมนิก้า” ขอตะโกนดัง ๆ ว่าราคาหุ้นมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้าน 23–24 บาท ได้ไม่ยากเพคะ
เช่นเดียวกับรายของ ERW ที่ราคาหุ้นขยับตัวสวย ๆ มาปิดที่ระดับ 2.24 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 47 ล้านบาท “โมนิก้า” เชื่อว่า ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่อะไรอื่น นอกจากแรงจูงใจจากภาคท่องเที่ยวที่กำลังตื่นตัวสุด ๆ ทำให้นักลงทุนเริ่มทยอยเข้ามาเก็บของสวย ๆ ล่วงหน้า เพราะธุรกิจโรงแรมที่มีฐานรายได้หลักจากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างของ “ดิ เอราวัณ” มักตอบสนองเชิงบวกทันทีที่มีสัญญาณดี ๆ โผล่เข้ามาหนุน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขท่องเที่ยว หรือมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐเพคะ
เหมือนกับรายของสายการบินอย่าง BA ที่ราคาหุ้นดีดตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 14.40 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 93 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่างานนี้อาจเป็นจังหวะทองในการเข้าเก็บของดี…. เพราะกระแสท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว เป็นแรงส่งชั้นดีให้หุ้นสายการบินกลับมามีสีสันอีกครั้ง คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสกลับไปทดสอบแนวต้านแถว ๆ 15.10–15.80 บาท ได้ไม่ยากเจ้าค่ะ
เม้าท์ต่อในกลุ่มวัสดุก่อสร้างยังคงเป็นดาวเด่นในช่วงนี้ โดย “โมนิก้า” เห็นตรงกับนักวิเคราะห์ ว่าโอกาสตีปีกหลังน้ำลดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาแรง เพราะรัฐบาลเร่งจัดแพ็กเกจฟื้นฟูใหญ่หลังน้ำท่วมหนัก นักลงทุนจึงไม่รอช้า เข้ามาเก็งกำไรระยะสั้นกันอย่างคึกคัก เริ่มจาก DOHOME ราคาปิดที่ระดับ 3.80 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111 ล้านบาท ตามมาด้วย GLOBAL ราคาปิดที่ระดับ 6.55 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1.55% มูลค่าการซื้อขาย 99 ล้านบาท บอกเลยว่ารายนี้ได้อานิสงส์ตรง ๆ เพค่ะ
รวมถึงรายของ HMPRO ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 6.40 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 353 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่า แรงซื้อยังมีต่อเนื่องในช่วงนี้ นักลงทุนหลายรายเริ่มจับตากลุ่มวัสดุก่อสร้างเป็นเป้าหมายเก็งกำไรระยะสั้น เพราะนอกจากตัวเลขราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแล้ว ยังมีปัจจัยหนุนชัดเจนจากแพ็กเกจรัฐและการฟื้นตัวจริงในพื้นที่น้ำท่วม ถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนไม่ควรมองข้ามเจ้าค่ะ
โมนิก้าและทีมงาน