“ญี่ปุ่น” ผวา! แผ่นดินไหวเขย่า “คาโกชิมะ” ต่อเนื่องเกิน 1,000 ครั้งใน 2 สัปดาห์

ประเทศญี่ปุ่นยังเผชิญแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณหมู่เกาะโทคาระ เกิดแล้วกว่า 1,000 ครั้งใน 13 วัน รัฐบาลเตือนประชาชนเตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อ


ผู้สื่อข่าวรายงาน (3 ก.ค.68) ว่าประเทศญี่ปุ่นยังคงประสบเหตุแผ่นดินไหวต่อเนื่องบริเวณนอกชายฝั่งหมู่เกาะโทคาระ จังหวัดคาโกชิมะ ทางตอนใต้ของประเทศ โดยข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวเกิดแผ่นดินไหวสะสมแล้วมากกว่า 1,000 ครั้ง โดยเฉพาะช่วงเวลา 12:00 น. ของวันนี้ (3 ก.ค.68) พบว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นรวมแล้วถึง 1,001 ครั้ง

แผ่นดินไหวส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่สามารถรับรู้ได้ โดยมี 3 ครั้งที่มีความรุนแรงถึงระดับ 5- ตามมาตรวัดความรุนแรงของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระดับที่ประชาชนไม่สามารถยืนทรงตัวได้ และสิ่งของภายในอาคารอาจร่วงหล่นจนเป็นอันตราย ทั้งนี้ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่อยู่ในระดับความลึกประมาณ 16 กิโลเมตรใต้พื้นทะเล

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้จัดแถลงข่าวฉุกเฉิน เตือนให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว “เตรียมพร้อมอพยพได้ทุกเมื่อ” โดยเน้นย้ำว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าแผ่นดินไหวในครั้งนี้จะยุติลงเมื่อใด และอาจมีแผ่นดินไหวในระดับความรุนแรงใกล้เคียงเกิดขึ้นอีก

นายเอบิตะ อายาทากะ หัวหน้าฝ่ายติดตามแผ่นดินไหวและสึนามิ กล่าวว่า การเกิดแผ่นดินไหวอย่างต่อเนื่องอาจมาจากแรงเครียดที่สะสมในรอยเลื่อนใต้ทะเล ซึ่งยังมีโอกาสที่แผ่นดินไหวขนาด 5 หรือสูงกว่าอาจเกิดขึ้นซ้ำอีกในพื้นที่ใกล้เคียง

ด้านนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ แถลงว่า รัฐบาลกลาง เทศบาลท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จะต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องชีวิตประชาชน โดยย้ำถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น แผ่นดินไหวขนาดใหญ่บริเวณ “ร่องลึกนันไค” ซึ่งหากเกิดขึ้นอาจสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง โดยมีการประเมินว่าอาจมีผู้เสียชีวิตสูงถึง 300,000 ราย และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ผศ.ดร.ยากิฮาระ ฮิโรชิ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากมหาวิทยาลัยคาโกชิมะ ให้ความเห็นว่า แผ่นดินไหวในหมู่เกาะโทคาระเกิดจากการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก โดยฝั่งตะวันออกได้รับแรงกดจากแผ่นฟิลิปปินส์ที่จมลงใต้แผ่นยูเรเซีย ขณะที่ฝั่งตะวันตกได้รับแรงดันจากร่องลึกโอกินาวา ซึ่งทำให้เกิดการสะสมพลังงานในรอยเลื่อนโดยรอบ ส่งผลให้แผ่นดินไหวเกิดขึ้นถี่และต่อเนื่อง ทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่ของเหลวใต้เปลือกโลกจะดันตัวขึ้นมา เพิ่มแรงในการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อน

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า แผ่นดินไหวในหมู่เกาะโทคาระไม่มีความเชื่อมโยงกับร่องลึกนันไค ซึ่งอยู่ห่างออกไปคนละพื้นที่ แต่ย้ำว่าประชาชนควรเฝ้าระวังและติดตามประกาศจากทางการอย่างใกล้ชิด

Back to top button