
8 กลุ่มทุนต่างชาติ ควักเงิน 742 ล้านบาท เข้าเทกโอเวอร์ DV8
DV8 แจ้งตลาดหลักทรัยพย์ฯ ว่ากลุ่มทุน 8 รายยื่นเสนอซื้อหุ้นสามัญ 1,319 ล้านหุ้น และวอร์แรนต์ 302 ล้านหน่วย รวมมูลค่า 742.18 ล้านบาท คาดยื่นคำเสนอซื้อ 11 ก.ค.68
บริษัท ดีวี8 จำกัด (มหาชน) หรือ DV8 แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ว่า สำนักงานได้รับแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ (แบบ 247-3) ของบริษัท
สำหรับชื่อผู้ทำคำเสนอซื้อ ได้แก่ 1) 210k Capital, LP 2) บริษัท คลิฟ แคปปิตอล จำกัด 3) MOON SG INVESTMENTS PTE. LTD. 4) SORA SPIRAL PTE. LTD. 5) ASIASTRATEGY TOPWIN SG PTE. LTD. 6) Mythos Venture Fund I L.P. 7) บริษัท มายทอส บิทยีลด์ จำกัด และ 8) Mr. Simon Morris Gerovich
โดยผู้ประกาศเจตนามีความประสงค์จะเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทฯ จำนวน 1,319,922,083 หุ้น คิดเป็น 100% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด และ 100% ของสิทธิออกเสียงในกิจการ โดยมีราคาที่คาดว่าจะเสนอซื้อต่อหน่วยที่ 0.56 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 739,156,366.48 บาท
นอกจากนี้ ยังมีความประสงค์เสนอซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ จำนวน 302,356,987 หน่วย คิดเป็น 100% ของจำนวนที่ออกทั้งหมด ในราคาคาดว่าจะเสนอซื้อต่อหน่วยที่ 0.01 บาท คิดเป็นมูลค่า 3,023,569.87 บาท รวมมูลค่าการเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดทั้งสิ้น 742,179,936.35 บาท
ทั้งนี้ การทำคำเสนอซื้อดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการ และอยู่ภายใต้การพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีบริษัท ดิสคัฟเวอร์ แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นผู้จัดเตรียมคำเสนอซื้อ และมีบริษัทเอ็มเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล ลอร์ ออฟฟิศ จำกัด (ที่ปรึกษากฏหมาย) เป็นที่ปรึกษาอื่น โดยคาดว่าผู้ประกาศเจตนาจะสามารถยื่นคำเสนอซื้ออย่างเป็นทางการต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ได้ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 โดยกระบวนการทำคำเสนอซื้อจะเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตามหากย้อนดูผลการดำเนินงานช่วงปี 2564 ถึงไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีผลประกอบการดังนี้โดยในปี 2564 บริษัทขาดทุนสุทธิ 47.38 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 14.32 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 35.71 ล้านบาท แต่มาถึงปี 2567 พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 3.43 ล้านบาท และจนมาถึงไตรมาส 1/2568 ขาดทุนสุทธิ 20.14 ล้านบาท
สำหรับ DV8 ประกอบธุรกิจเป็นผู้จัดหา ผลิต และ/หรือร่วมผลิตสื่อโฆษณา ณ จุดขาย และการจัดงานอีเว้นท์ รวมถึงการผลิตผ่านสื่อออนไลน์
ส่วนราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 2568 โดยในขณะนั้นราคาหุ้นอยู่ที่ระดับประมาณ 0.40 บาทต่อหุ้น
ต่อมาในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2568 ราคาหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 1.00 บาท และยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 5.50 บาทต่อหุ้น นับเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1,200% ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน