
“อุ๊งอิ๊ง” เข้ากระทรวงวัฒนธรรมวันแรก ชูซอฟต์พาวเวอร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
“แพทองธาร” เข้ากระทรวงวัฒนธรรมวันแรก วางเป้าผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ยอมรับแย่หน่อยต้องหยุดหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ดีใจได้นั่งรัฐมนตรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ที่กระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก โดยถือฤกษ์เวลา 09.09 น. เข้ากระทรวงด้วยชุดผ้าไหมสีม่วงทั้งชุด
โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบดอกไม้แสดงความยินดีต้อนรับ ขณะเดียวกันมีคณะผู้บริหารระดับสูงร่วมต้อนรับ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ, นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม
นางสาวแพทองธาร กล่าวตอนหนึ่งว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่ากระทรวงวัฒนธรรมเป็น “กระทรวงเล็ก ๆ” แต่ในความเป็นจริง วัฒนธรรมของไทยมีคุณค่าและมูลค่าในตัวเอง
พร้อมยอมรับว่า “การที่ตอนนี้อาจจะแย่หน่อย… ต้องหยุดทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แต่ว่าดีใจมาก ๆ ที่ได้ยังมีโอกาสได้ทำงานในส่วนของการได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกก็ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม กล่าว
นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงวิสัยทัศน์ในการยกระดับกระทรวงวัฒนธรรมว่า อยากให้เติบโตและยิ่งใหญ่เหมือนกระทรวงวัฒนธรรมในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ซึ่งใช้ซอฟต์พาวเวอร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างรายได้ใหม่ ๆ ให้ประชาชน ตนเคยมีโอกาสได้พูดคุยกับทูต ทราบว่ามีการใช้กระทรวงวัฒนธรรม เป็นกระทรวงหลักในการทำให้รายได้ของประชาชนเพิ่มมากขึ้น เป็นรายได้ใหม่ ๆ เป็นมุมมองที่อยู่ในซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งเป็นนโยบายที่เคยพูดต่อประชาชนไปแล้ว ตนจึงอยากทำให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นคีย์หลักเพื่อจะขับเคลื่อนอาชีพใหม่ ๆ หรือโอกาสใหม่ ๆ ให้คนไทย
“ถือว่าได้พักหน้าที่ของนายกฯ แต่ก็มีโอกาสได้ทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้อย่างเต็มที่ ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ๆ” นางสาวแพทองธาร กล่าวทิ้งท้าย
สั่งทบทวน คืนโบราณวัตถุ 20 รายการให้ “กัมพูชา”
ในการประชุมผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวแพทองธาร ชี้แจงกรณีมีข่าวปลอมเผยแพร่ทางออนไลน์ว่า รัฐบาลไทยเตรียมส่งคืนโบราณวัตถุ 20 ชิ้นให้กัมพูชา โดยยืนยันว่า “ไม่เป็นความจริง”
นางสาวแพทองธาร ระบุว่า การส่งคืนโบราณวัตถุให้กัมพูชาไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นกระบวนการที่ดำเนินมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเคยคืนโบราณวัตถุไปแล้ว 23 รายการ ตั้งแต่ปี 2558 ภายหลังมีการตรวจสอบว่า โบราณวัตถุ 43 รายการที่ลักลอบนำเข้าจากสิงคโปร์เมื่อปี 2543 เป็นของกัมพูชา
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน มีมติเห็นชอบการส่งคืนโบราณวัตถุอีก 20 รายการ ตามข้อเสนอของกระทรวงวัฒนธรรม ภายหลังได้รับการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญว่าเป็นของกัมพูชา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการส่งคืน เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดหางบประมาณ และยังไม่สามารถขอใช้งบกลางได้ เพราะไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ “เรื่องเร่งด่วน”
“ตอนนี้ต้องทบทวนอีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังมีความอ่อนไหว และต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนงบประมาณ จะตั้งขอใหม่ในปีงบประมาณของกระทรวง”
ขณะเดียวกัน นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวถึงกรณีโบราณสถานกลุ่มปราสาทตาเมือนว่า เป็นโบราณสถานที่อยู่ในเขตอธิปไตยของไทย โดยขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตามพระราชบัญญัติโบราณสถาน พ.ศ.2505 แล้วอย่างชัดเจน ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่าจะเร่งดำเนินการปกป้องพื้นที่ในส่วนอื่น ๆ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทยเช่นกัน
สำหรับการเผยแพร่ข่าวปลอมที่สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์รัฐบาล นางสาวแพทองธาร ระบุว่า แม้ตนจะเป็นบุคคลสาธารณะและเข้าใจการวิพากษ์วิจารณ์ แต่การปล่อยข่าวเท็จเรื่องรัฐบาลส่งคืนโบราณวัตถุไปแล้ว ทั้งที่ยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลเท็จต่อไป