“รูบิโอ” การันตีสหรัฐยังหนุน “อินโด-แปซิฟิก” แม้ “ภาษีทรัมป์” กดดันอาเซียน

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เดินสายพบอาเซียน ย้ำพันธกิจในอินโด-แปซิฟิก แม้รัฐบาลทรัมป์เตรียมขึ้นภาษี 20-40% กับหลายประเทศในภูมิภาค ขณะนักวิเคราะห์มอง จีนอาจได้ประโยชน์ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากวอชิงตัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เดอะการ์เดียนรายงานว่า นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดี (10 ก.ค.68) โดยเข้าพบรัฐมนตรีต่างประเทศของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อย้ำว่าสหรัฐฯ ยังให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก แม้รัฐบาลวอชิงตัน ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมใช้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศในภูมิภาคนี้ เริ่มวันที่ 1 สิงหาคมนี้

นายรูบิโอ กล่าวว่า เครื่องมือที่เคยใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ วันนี้กลับถูกใช้เป็นอาวุธทางการค้า พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ ไม่มีเจตนาจะถอนตัวจากภูมิภาคนี้ เพราะเรื่องราวสำคัญของโลกในอีก 50 ปีข้างหน้าจะถูกกำหนดจากที่นี่

ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังไทย, มาเลเซีย, สปป.ลาว, เมียนมา, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ว่าอาจต้องเผชิญอัตราภาษีสูงถึง 20-40% หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ภายในกำหนด

นายรูบิโอ ระบุด้วยว่า ขณะนี้สหรัฐฯ อยู่ระหว่างหารือกับประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน และเชื่อว่าเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้น่าจะได้อัตราภาษีที่ดีกว่าภูมิภาคอื่นของโลก

เดอะการ์เดียนรายงานความเห็นของนายสตีเฟน โอลสัน นักวิจัยอาวุโสจากสถาบัน ISEAS–Yusof Ishak ในสิงคโปร์ว่า การมาเยือนของรูบิโอครั้งนี้เต็มไปด้วยความท้าทาย เพราะต้องพยายามสร้างความมั่นใจว่าสหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นในความสัมพันธ์ทางการค้าเสรี ทั้งที่นโยบายหลายอย่างกลับสวนทาง โดยมองว่ารัฐมนตรีอาเซียนอาจรับฟังด้วยความสุภาพ แต่ไม่ถึงขั้นเชื่อมั่นอย่างแท้จริง

โดยในเวทีเดียวกัน จีนและอาเซียน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกัน ได้สรุปการเจรจาปรับปรุงความตกลงการค้าเสรี เพื่อขยายความร่วมมือครอบคลุมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ซึ่งถูกมองว่าอาจตอกย้ำบทบาทของจีนในภูมิภาค ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากฝั่งสหรัฐฯ

Back to top button