
เปิดเบื้องหลัง! “ทรัมป์” หักหน้า “โต เลิม” ปรับภาษีนำเข้าเวียดนาม 20% ไม่ทันตั้งตัว
สำนักข่าวต่างประเทศเผย "โดนัลด์ ทรัมป์" สร้างความประหลาดใจแก่ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม "โต เลิม" ด้วยการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเป็น 20% อย่างกะทันหัน ทั้งที่การเจรจาเบื้องต้นอยู่ที่กรอบ 10-15% เท่านั้น การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้ทีมเจรจาของเวียดนามต้องปรับแผนรับมืออย่างเร่งด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงข้อมูล สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุอ้างแหล่งข่าววงในว่า นายโต เลิม เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าถึงการตัดสินใจของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเป็น 20% เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจอย่างยิ่งแก่ฝ่ายเวียดนาม เนื่องจากก่อนหน้านี้การเจรจาอยู่ในกรอบอัตราภาษีเพียง 10-15% เท่านั้น
แหล่งข่าวระบุว่า ทันทีที่การพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีทรัมป์เสร็จสิ้น นายโต เลิม ได้สั่งการให้ทีมเจรจาเดินหน้าผลักดันให้มีการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าจาก 20% ให้ใกล้เคียงกับข้อเสนอเดิมที่วางไว้
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ชี้แจงว่า อัตราภาษีใหม่ 20% นี้จะเข้ามาแทนที่อัตราพื้นฐาน 10% เดิม และจะถูกรวมกับภาษีภายใต้กรอบ Most Favoured Nation (MFN) ที่เวียดนามได้รับในฐานะสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งอาจส่งผลให้ภาระภาษีรวมเกินกว่า 20% สำหรับสินค้าบางประเภท อย่างไรก็ตาม สินค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น รถยนต์และเหล็กกล้า จะยังคงถูกจัดเก็บภาษีแยกต่างหาก ไม่รวมอยู่ในโครงสร้างภาษีนำเข้าใหม่นี้
ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนเวียดนามกลับรายงานข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้อย่างจำกัด ภายใต้คำแนะนำจากทางการที่ขอความร่วมมือไม่เผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่เป็นทางการหรือไม่ได้รับความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสองประเทศ
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์ม Truth Social ยืนยันว่า สหรัฐฯ และเวียดนามได้บรรลุข้อตกลงภาษีร่วมกัน โดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้า 20% สำหรับสินค้าทั่วไป และ 40% สำหรับสินค้าที่มีการส่งผ่าน (Transshipping) เพื่อแลกเปลี่ยน และเวียดนามเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐโดยสมบูรณ์ โดยไม่เก็บภาษีสินค้าสหรัฐ หรือภาษีศุลกากรอยู่ที่ 0%