
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 ก.ค.68
ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง หนุนดัชนีสหรัฐและยุโรปทำนิวไฮ ขณะที่ราคาทองคำปรับลงจากแรงขายและดอลลาร์แข็งค่า ด้านน้ำมันพุ่งจากความเสี่ยงอุปทานในตะวันออกกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดบวกในวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2568 โดยดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 229.71 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 44,484.49 จุด ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 33.66 จุด หรือ 0.54% ปิดที่ 6,297.36 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 155.16 จุด หรือ 0.75% ปิดที่ 20,885.65 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐในการใช้จ่าย
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปกลับมาฟื้นตัวหลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 4 วัน โดยดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 547.03 จุด เพิ่มขึ้น 5.19 จุด หรือ 0.96% นำโดยหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอย่าง ABB และ Legrand ที่รายงานผลประกอบการดีเกินคาด ดัชนี CAC-40 ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 99.91 จุด หรือ 1.29% ปิดที่ 7,822.00 จุด ดัชนี DAX เยอรมนี เพิ่มขึ้น 361.55 จุด หรือ 1.51% ปิดที่ 24,370.93 จุด และดัชนี FTSE 100 อังกฤษ เพิ่มขึ้น 46.09 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 8,972.64 จุด
ในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบ 13.80 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 3,345.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงกดดันของดอลลาร์ที่แข็งค่าและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งกว่าคาด ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อทองคำและรอดูท่าทีเรื่องนโยบายภาษีศุลกากร
ด้านราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากความกังวลด้านอุปทาน หลังเกิดเหตุโดรนโจมตีบ่อน้ำมันในแคว้นเคอร์ดิสถานของอิรักต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 1.75% ปิดที่ 67.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 1.46% ปิดที่ 69.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำหรับตลาดเงิน ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะยอดค้าปลีกและข้อมูลแรงงาน โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.35% แตะที่ระดับ 98.734