
ส่งออกญี่ปุ่นหด..ดีลภาษีทรัมป์ไม่คืบ.!
ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่น ช่วงเดือนมิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 0.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ถือเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องจากเดือนพ.ค.ที่ลดลง 1.7%
ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่น ช่วงเดือนมิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลง 0.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ถือเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องจากเดือนพ.ค.ที่ลดลง 1.7% เนื่องจากยอดการส่งมอบยังลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
การส่งออกที่ปรับลดลงดังกล่าว สวนทางการคาดการณ์ของบรรดานักเศรษฐศาสตร์ สำรวจโดยโพลรอยเตอร์ ที่คาดว่าจะเติบโต 0.5% และมีขึ้นท่ามกลางการเจรจาการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ที่ยังไม่คืบหน้า..!!
ตัวเลขการส่งออกไปจีน (คู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น) ปรับลดลง 4.7% ขณะที่การส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง 11.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ปรับลดลงมากขึ้นกว่าเดือนพ.ค. 68 ที่ปรับลดลง 11%
ข้อมูลดังกล่าวออกมาท่ามกลางการเผชิญกับภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) อัตรา 25% จากสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ 1 ส.ค. 68 สูงกว่าอัตรา 24% ที่ทรัมป์ประกาศ “วันปลดแอก” (Liberation Day) เพียง 1%
กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ย้ำว่าภาษีศุลกากร 25% จะบังคับใช้กับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น โดยระบุว่า “เขาไม่คาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ครอบคลุมวงกว้างกว่านี้กับญี่ปุ่นได้”
Marcel Thieliant หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก จากแคปิตอล อีโคโนมิกส์ ระบุว่า การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง 11.4% ถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโควิด-19 ช่วงปี 2563
ข้อมูลล่าสุดจากธนาคารโลก ระบุว่า การส่งออก (รวมถึงภาคบริการ) คิดเป็นเกือบ 22% ของ GDP ของญี่ปุ่นช่วงปี 2566 โดยตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 68 รถยนต์ญี่ปุ่นที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า 25% เช่นกัน จากข้อมูลของศุลกากรญี่ปุ่น ระบุว่า การส่งออกรถยนต์ไปยังสหรัฐฯ ถือเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจญี่ปุ่น คิดเป็น 28.3% ของการส่งออกทั้งหมดช่วงปี 2567
ขณะที่ข้อมูลจากกระทรวงการค้า บ่งชี้ว่า การส่งออกรถยนต์ ที่รวมถึงรถยนต์, รถบัสโดยสาร และรถบรรทุก ไปยังสหรัฐฯ ลดลง 26.7% ช่วงเดือนมิ.ย. 68 ลดลงมากขึ้นจากเดือนพ.ค.ที่ลดลง 24.7%
โดย Marcel Thieliant กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์ดูเหมือนจะใช้การลดราคาเพิ่มเป็น 2 เท่า เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด โดยชี้ให้เห็นว่าแม้ปริมาณการส่งออกรถยนต์ไปสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบปีก่อน แต่มูลค่าการส่งออกรถยนต์ กลับลดลงมากถึง 25.3%
“ส่วนหนึ่งสะท้อนถึงการแข็งค่าของเงินเยน เนื่องจากการส่งออกไปสหรัฐฯ ปกติมักใช้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ แต่ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการลดราคา โดยบรรดาผู้ผลิตรถยนต์ ดูเหมือนจะแบกรับภาระภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เกือบทั้ง หมดอัตรา 25% ที่ทรัมป์กำหนดช่วงเดือนเม.ย. 68 กระทบกับอัตรากำไร”
นักวิเคราะห์หลายราย เคยมีการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวต่างประเทศว่า ภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น ที่พึ่งพาการส่งออกต้องเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวช่วงไตรมาส 1/68 เมื่อเทียบไตรมาสก่อน เนื่องจากการส่งออกอ่อนแอลง และการหดตัวอีกครั้งเช่นนี้จะทำให้ญี่ปุ่นเข้าข่าย “ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิค”
Ryosei Akazawa ผู้แทนเจรจาการค้าระดับสูงของญี่ปุ่น ระบุว่า ข้อตกลงใดก็ตามต้องรวมการยอมให้ส่งออกรถยนต์สำหรับญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้ Akazawa ยังเพิกเฉยต่อกำหนดเส้นตายใด ๆ รวมถึงกำหนดเส้นตายของสหรัฐฯ วันที่ 1 ส.ค. 68 โดยระบุชัดว่า เขาจะไม่เสียสละภาคการเกษตรของญี่ปุ่นเพื่อประโยชน์ของการบรรลุข้อตกลงที่เร็วขึ้น