ส่งออกญี่ปุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงในวันนี้ (20 ส.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปิดอ่อนแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 300 จุด และดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบจากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้นักลงทุนในภูมิภาคเอเชียระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น โดยดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดที่ระดับ 43,400.66 จุด ลดลง 145.63 จุด หรือ -0.33% ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดที่ 24,968.57 จุด ลดลง 154.33 จุด หรือ -0.61% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน เปิดที่ 3,716.68 จุด ลดลง 10.61 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 0.24% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 1.52% ขณะที่แรงกดดันเพิ่มเติมมาจากข้อมูลเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค. ร่วงลง 2.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 4 ปี และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.1% โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงมากกว่าการหดตัว 0.5% ในเดือนมิ.ย. สะท้อนสัญญาณอ่อนแอของเศรษฐกิจการค้าญี่ปุ่น ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ที่ระดับ 3.0% และอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 3.5% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ระหว่างวันที่ 21-23 ส.ค. ภายใต้หัวข้อ "Labor Markets in Transition: Demographics, Productivity, and Macroeconomic Policy" หรือ "ตลาดแรงงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน: โครงสร้างประชากร ประสิทธิภาพการผลิต และนโยบายเศรษฐกิจมหภาค" โดยมีไฮไลต์สำคัญคือการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในวันศุกร์ที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐฯ (21.00 น.ตามเวลาไทย) ซึ่งถือเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นสุดวาระประธานเฟดในเดือนพ.ค. 2569 นักลงทุนทั่วโลกจึงเฝ้ารอฟังถ้อยแถลงอย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต