CBG-OSP วิ่งคึก! โบรกชี้กำไร “กลุ่มเครื่องดื่ม” ปี 68 โตสวนภาวะเศรษฐกิจ

CBG-OSP บวกแรง! บล.ดาโอคงน้ำหนักลงทุนกลุ่มเครื่องดื่ม หลังมองว่าผลประกอบการปี 68 จะเติบโตอย่างโดดเด่นสวนภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ชู CBG เป็นท็อปพิก ราคาเป้าหมาย 79 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ค.68) ณ เวลา 12:22 น. ราคาหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG อยู่ที่ระดับ 57.75 บาท บวก 2 บาท หรือ 3.59% สูงสุดที่ระดับ 58 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 56 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 127.19 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP อยู่ที่ระดับ 16.80 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 3.07% สูงสุดที่ระดับ 16.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 16.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108.47 ล้านบาท

โดยบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ประเมินมุมมองเชิงบวกต่อส่วนแบ่งตลาด (Market Share) ของ CBG ในเดือนมิถุนายน โดยระบุว่าส่วนแบ่งตลาดของ CBG ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ทั้งในแง่ของแบรนด์และผู้ผลิต จากแผนการจัดโปรโมชั่นในช่องทาง Modern Trade ซึ่งเริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน และยังมีแผนเดินหน้าจัดโปรโมชั่นต่อในเดือนกรกฎาคม ทำให้คาดว่าส่วนแบ่งตลาดของ CBG จะยังคงทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลประกอบการของ CBG ในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทประเมินกำไรสุทธิที่ 812 ล้านบาท เติบโต 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และเพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน (QoQ) ซึ่งถือเป็นระดับกำไรสูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส และใกล้เคียงกับประมาณการเดิม โดยการเติบโตจากปีก่อนหน้าได้รับแรงหนุนจากรายได้รวมที่ขยายตัว 15% จากรายได้สินค้าแบรนด์ของตนเองในประเทศที่เติบโตถึง 30% จากปีก่อน สะท้อนถึงการขยายตัวของส่วนแบ่งตลาดภายใต้กลยุทธ์คงราคาขายที่ 10 บาท

ขณะเดียวกันรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่าย (distribution business) เติบโต 28% จากปีก่อน ช่วยชดเชยรายได้ต่างประเทศที่หดตัว 7% จากปีก่อน โดยเฉพาะจากตลาดกัมพูชา

ทั้งนี้ GPM ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าจากการที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำเพิ่มขึ้น ส่วนการเติบโตของกำไรจากไตรมาสก่อนหน้า เป็นไปตามฤดูกาล ฝ่ายวิจัยจึงคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ไว้ที่ 3,301 ล้านบาท เติบโต 16% จากปีก่อนหน้า และยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 79.00 บาท อิงค่า PER ที่ 24.0 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับระดับ -1.25SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

ด้าน OSP คาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 2 ปี 2568 จะเติบโต YoY จากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ขยายตัว และคาดว่ากำไรจะทรงตัวหรือขยายตัวเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน จากแรงหนุนรายได้ในประเทศทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่ขยายตัวจากไตรมาสก่อน ขณะที่ GPM ยังคงทรงตัวในระดับสูง ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ไว้ที่ 3,426 ล้านบาท เติบโต 109% จากปีก่อนหน้า และกำไรปกติที่ 3,131 ล้านบาท เติบโต 3% จากปีก่อนหน้า

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) ที่ระดับ “เท่ากับตลาด” โดยเลือก CBG (ซื้อ/เป้า 79.00 บาท) เป็นหุ้นเด่น (Top pick) ของกลุ่ม เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการปี 2568 มีทิศทางเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

Back to top button