“กรมอุทยาน” เล็งเปิดใช้ “E-Ticket” กลาง ต.ค. นี้ เริ่มนำร่อง 6 แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล

กรมอุทยานฯ เตรียมใช้ “E-Ticket” กลาง ต.ค. นี้ เริ่มนำร่อง 6 อุทยานทางทะเล จอง-จ่ายออนไลน์ ลดคิว ลดแออัด ป้องกันทุจริต พร้อมเพิ่มเรือยางดูแลนักท่องเที่ยว


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้า การใช้ตั๋วเข้าอุทยานแห่งชาติแบบอิเล็คทรอนิกส์ หรือ อี-ทิกเก็ต(E-Ticket) ว่า การเตรียมการทั้งหมด เกือบพร้อม 100% แล้ว โดยพร้อมใช้ในพื้นที่อุทยานทางทะเล 6 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมูเกาะพีพี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพังงา อุทยานแห่งชาติเกาะสิมิลัน อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ และอุทยานแห่งชาติเกาะลันตา คาดว่า เร็วที่สุดจะดำเนินการได้ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป

นายอรรถพล กล่าวว่า การใช้ E-Ticket ในอุทยานแห่งชาติ รซื้อบัตรเข้าอุทยานฯ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งช่วยให้ผู้ที่ต้องการเข้าชมอุทยานฯ สามารถจองและชำระเงินล่วงหน้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อบัตรที่หน้างาน โดยมีขั้นตอนการ การดำเนินการต่อไปนี้

1.จองและชำระเงิน ผู้ใช้บริการสามารถจองบัตรเข้าอุทยานฯ ล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ หรือเว็บไซต์ของกรมอุทยานฯ ได้ หลังจากนั้นก็ ยืนยันตัวตน:

หลังจากชำระเงินแล้ว ระบบจะสร้าง QR Code หรือรหัสยืนยันตัวตน ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางถึงอุทยานฯ

เมื่อเข้าอุทยาน ผู้ใช้บริการสามารถนำ QR Code หรือรหัสยืนยันตัวตนที่ได้รับ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่พื้นที่อุทยานฯ ได้เลย

นายอรรถพล กล่าวว่า ข้อดีของการใช้ E-Ticket สะดวกและรวดเร็ว ช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวซื้อบัตรที่หน้างาน  ช่วยลดความแออัดบริเวณจุดจำหน่ายบัตรเข้าอุทยานฯ สำคัญคือป้องกันการทุจริต ช่วยให้การบริหารจัดการรายได้ของกรมอุทยานฯ โปร่งใสและตรวจสอบได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในอุทยานฯ ให้มีความสะดวกและเป็นระบบมากขึ้น

เมื่อถามว่า ในส่วนของอุทยานทางบก จะดำเนินการใช้ E-Ticket ด้วยหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ทุกทางบกอุทยานฯทั้ง 156 แห่งจะต้องดำเนินการเดียวกันทั้งหมด ขณะนี้ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทำเรียบร้อยแล้ว ที่ไหนระบบเสร็จเรียบร้อยก็จะทะยอยเปิดใช้ไปจนครบ ส่วนที่ทำในพื้นที่อุทยานทางทะเลก่อน เพราะ อุทยานทางทะเลนั้น มีทางเข้าหลายที่ ทั้งนี้ แต่ละที่ได้บังคับให้ทำท่าเทียบเรือ และให้เรือที่นำนักท่องเที่ยวลงพื้นที่ นั้น ผ่านทางท่าเรือที่ทางกรมอุทยานมีระบบสแกนหน้ารองรับไว้แล้ว

“นอกจากนี้ เวลานี้ทางอุทยานได้จัดซื้อเรือเรือยางเอนกประสงค์แล่นเร็วเพิ่มอีกจำนวน 40 ลำ เพื่อดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และตรวจสอบความเรียบร้อย ให้นักท่องเที่ยว ปฏิบัติตามระเบียบที่กรมอุทยานกำหนดเอาไว้อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ปล่อยน้ำเสีย ไม่ทิ้งขยะลงทะเล เป็นต้น” นายอรรถพล กล่าว

Back to top button