BEM รายได้ค่าผ่านทาง-ธุรกิจพาณิชย์หด กดกำไร Q2 เหลือ 993 ล้านบาท

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 และงวด 6 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีกำไรสุทธิลดลง ดังนี้

บริษัทฯ รายงานผลการดำเนินงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 993.09 ล้านบาท ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,003.15 ล้านบาท เนื่องมาจากการลดลงของรายได้ค่าผ่านทางอยู่ที่  2,084 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 30 ล้านบาท หรือ 1% สำหรับปริมาณรถที่ใช้ทางพิเศษในไตรมาสนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.08 ล้านเที่ยวต่อวัน ปรับตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณรถเฉลี่ยอยู่ที่ 1.10 ล้านเที่ยวต่อวัน สาเหตุสืบเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายไตรมาสก่อน ทำให้มีการปิดทางขึ้น-ลงในบางด่าน ประกอบกับภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอการเติบโตส่งผลให้ปริมาณการเดินทางบนทางพิเศษลดลง

อีกทั้ง รายได้จากธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ 290 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 16 ล้านบาทหรือ 5% โดยมีสาระสำคัญจากการลดลงของรายได้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมภายในสถานีรถไฟฟ้าในส่วนต้นทุนของธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ 106 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ส่วนของรายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้น จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ต้นทุนการให้บริการรวมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร อยู่ที่ 2,643 ล้านบาท โดยภาพรวมใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 561 ล้านบาท ลดลง 29 ล้านบาท หรือ 5%

ส่วนรายได้จากการให้บริการ อยู่ที่ 3,997 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ 26 ล้านบาท หรือ 1% รวมไปถึงรายได้อื่นอยู่ที่ 359 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินปันผลรับ ดอกเบี้ยรับและรายได้อื่นๆ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ 4 ล้านบาท หรือ 1% สาระสำคัญจากดอกเบี้ยรับจากเงินฝากที่ลดลง

อีกทั้ง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 328 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ 12 ล้านบาท หรือ 4% สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์

สำหรับงวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท อยู่ที่ 1,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 14 ล้านบาท หรือ 1% สาเหตุหลักมาจากการบริหารรายจ่ายทั้งส่วนของต้นทุนการให้บริการและต้นทุนทางการเงินได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่รายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 8,256 ล้านบาท โดยภาพรวมยังคงใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 8,273 ล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว อุบัติเหตุงานก่อสร้างคานสะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนองฯ ทรุดตัว ในช่วงเดือน มีนาคมที่ผ่านมา ประกอบกับภาพรวมของปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงในช่วงไตรมาสที่ 2