BEM จ่อรับสตอรี่เชิงบวกชุดใหญ่!

งบ Q3/68 BEM รายงานกำไรสุทธิ 1,079 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,067 ล้านบาท เป็นผลจากการบริหารจัดการควบคุมต้นทุน


คุณค่าบริษัท

การที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทย ประกาศเร่งผลักดันนโยบายราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าแบบเหมาจ่าย 40 บาท ตลอดวัน และจะจัดทำค่าผ่านทางพิเศษ (ทางด่วน) ทุกเส้นทางในอัตราสูงสุดไม่เกิน 50 บาทตลอดสายต่อครั้ง คาดว่าจะสามารถประกาศใช้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนได้ภายในสิ้นปี 2568 กลายเป็นสตอรี่เชิงบวกของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางพิเศษและระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า

โดยในส่วนของรถไฟฟ้า 40 บาทตลอดวัน จะดำเนินการในรูปแบบ Single Ownership โดยจะมีการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้า และจ้างให้เอกชนเป็นผู้บริหารจัดเก็บรายได้ส่งรัฐ ซึ่ง BEM มีรถไฟฟ้าที่อยู่ภายใต้การบริหาร ได้แก่ สายสีน้ำเงิน ระยะทางรวม 48 กิโลเมตร, สายสีม่วง สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน ระยะทาง 23 กิโลเมตร และสายสีส้ม (ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร และสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ระยะทาง 23.63 กิโลเมตร

ส่วนทางด่วนไม่เกิน 50 บาทตลอดสาย ซึ่งเป็นแนวทางภายใต้โครงการก่อสร้างโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 สายงามวงศ์วาน-พระราม 9 (Double Deck) ได้มีการหารือระหว่างเอกชนและรัฐแล้ว คาดจะเริ่มใช้เป็นของขวัญปีใหม่ 2569 เช่นกัน

ช็อตที่น่าสนใจ ภายใต้เงื่อนไขให้ BEM เป็นผู้ลงทุนโครงการ Double Deck มูลค่าเงินลงทุนราว 3.5 หมื่นล้านบาท แลกกับการขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ออกไป 22 ปี 5 เดือน ถือเป็นสตอรี่เชิงบวกที่จะสร้างรายได้ประจำให้กับ  BEM ในระยะยาว

ขณะที่งบไตรมาส 3/2568 BEM รายงานกำไรสุทธิ 1,079 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,067 ล้านบาท เป็นผลจากการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน และการบริหารต้นทุนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่ารายได้ลดลงจากผลกระทบของเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง

ส่วนรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 4,319 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 4,365 ล้านบาท โดยมีรายได้จากธุรกิจทางพิเศษ 2,242 ล้านบาท ลดลง 1%, รายได้จากธุรกิจระบบราง 1,771 ล้านบาท ลดลง 1% และรายได้จากการพัฒนาเชิงพาณิชย์ 306 ล้านบาท ลดลง 1%

ด้านผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนของปี 2568 มีกำไรสุทธิ 2,944 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2,917 ล้านบาท และมีรายได้จากการให้บริการ 12,574 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 12,638 ล้านบาท

บล.เคจีไอ ระบุว่า BEM รายงานกำไรในไตรมาส 3/2568 สูงกว่าคาดเล็กน้อย แม้รายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจจะแผ่วลง 1% ก็ตาม แต่อัตรากำไรขั้นต้น (gross profit) ของธุรกิจระบบรางดีขึ้น ส่วน gross profit ของธุรกิจทางพิเศษ และธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ชะลอตัว ขณะที่กำไรงวด 9 เดือนของปี 2568 ทรงตัวที่ 2.94 พันล้านบาท คิดเป็น 77% ของประมาณการทั้งปี

ทั้งนี้ ปกติในไตรมาส 4 และไตรมาส 1 มักเป็นช่วงโลว์ซีซั่น โดยไม่มีเงินปันผลรับ นอกจากนี้ ให้จับตารอข่าวดีจาก โอกาสจะได้รับสัมปทานโครงการทางด่วนยกระดับสองชั้น (double deck) มูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาท

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น BEM ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 22.50 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 15.66 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 2.33 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่  1.20 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่  8.92 บาท จากราคาต่ำสุด 7.30 บาท และราคาสูงสุด 12.09 บาท

Back to top button