DRT ประกาศจ่ายปันผล 0.18 บ. พร้อมรุกตลาดส่งออก ชูสินค้านวัตกรรม-โซลูชัน

DRT ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปีนี้ อัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 146.17 ล้านบาท มุ่งเน้นขยายตลาดส่งออก ชูสินค้านวัตกรรมและโซลูชันผลักดันยอดขายใกล้เคียงปีก่อน


นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา บริการติดตั้งโครงหลังคาสำเร็จรูปและกระเบื้องหลังคา พื้น บันได และผนังพร้อมบริการติดตั้ง ‘SPC Solutions’ แบบครบวงจร ภายใต้เครื่องหมายการค้า “ตราเพชร” เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2568 (มกราคม – มิถุนายน) อัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น จำนวน 812.03 ล้านหุ้น รวมเป็นเงิน 146.17 ล้านบาท  โดยจะปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผลวันที่ 2 กันยายน 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 12 กันยายน 2568

ทั้งนี้ ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดครึ่งปีแรกของปี 2568 มีรายได้รวม 2,585.20  ล้านบาท และกำไรสุทธิ 202.68 ล้านบาท ชะลอตัวเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าว สะท้อนจุดเด่นของ DRT เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอในทุกสภาวะเศรษฐกิจนับจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปลายปี 2548 และตอกย้ำฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

ขณะที่การดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลังยังคงมีความท้าทายจากหลากหลายปัจจัย ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน และราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันผลการดำเนินงานให้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยการมุ่งขยายตลาดส่งออกที่เป็นหนึ่งในช่องทางการจัดจำหน่ายหลักของบริษัทฯ เพื่อชดเชยดีมานด์ในประเทศที่ชะลอตัว พร้อมทั้งนำเสนอสินค้านวัตกรรมวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง พร้อมบริการในรูปแบบโซลูชันต่างๆ ทั้งกลุ่มกระเบื้องหลังคา (Diamond Roof Solutions) และ DIAMOND SPC SOLUTIONS ผลิตภัณฑ์บันได พื้นและผนัง SPC ควบคู่ไปกับบริการติดตั้งและการรับประกัน เพื่อผลักดันยอดขายและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ จะมีกำลังการผลิตใหม่ของโรงงานอิฐมวลเบา AAC-2 จังหวัดสระบุรี ช่วยเพิ่มยอดขายตั้งแต่ปลายปีนี้

Back to top button