ฝันค้าง.! รถไฟ 20 บาททุกสาย

ดูท่า “โครงการรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสาย” จะแท้ง..ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น.!?


ดูท่า “โครงการรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสาย” จะแท้ง..ตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น.!? เมื่อการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 6 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ….ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ที่มีนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เป็นประธานกมธ.มีการพิจารณาแล้วเสร็จ

แต่เกิดเหตุการณ์ “สภาล่ม” หลังสมาชิก สภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่มาแสดงตนไม่ครบองค์ประชุม ทำให้การพิจารณาร่างกฎหมายต่าง ๆ รวมถึงพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง พ.ศ…ต้องหยุดชะงักทันที

ทำให้ไทม์ไลน์ 1 ต.ค. 68 ดีเดย์รถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสายครอบคลุมโครงข่ายเส้นทางรถไฟฟ้าเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑลจำนวน 8 สาย รวม 13 เส้นทาง ทั้งสิ้น 194 สถานี ระยะทางรวม 276.84 กิโลเมตร มีอันต้องเลือนรางจางหายลงไปทันที

ที่สำคัญไทม์ไลน์การเปิดลงทะเบียน 25 ส.ค. 68 จะบังเกิดขึ้นได้หรือไม่..!?

สำหรับรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสายระยะแรก (เฟสแรก) จะใช้รูปแบบบัตร Rabbit Card สามารถใช้บริการได้ 4 สาย คือ สายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless (Visa/Mastercard) ตามเงื่อนไขธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการที่กำหนด สามารถใช้บริการได้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, แอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL)

ส่วนผู้เดินทางรถไฟฟ้าข้ามสาย ต้องถือบัตร 2 ใบ แต่ชำระค่าโดยสารเพียง 20 บาทตลอดสาย

สำหรับระยะที่สอง จะมีการนำเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสม เข้ามาใช้พัฒนาระบบ อาทิ การสแกนจ่ายค่าโดยสาร ด้วย QR CODE เพื่อเพิ่มความสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น

กรณีการชดเชยรายได้แก่เอกชนผู้รับสัมปทานโครงการรถไฟฟ้า จากมาตรการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มีการหารือกันระหว่างกระทรวงคมนาคม, กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเอกชนผู้รับสัมปทานทุกสายทางแล้วว่า ฝ่ายรัฐจะชดเชยรายได้ที่หายแบบ 100% (ตามจริง) ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางแบบสายทางเดียวหรือเดินทางข้ามสายทาง

ส่วนเงินชดเชยจะมาจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่มีเงินจากค่าสัมปทานนรวม 16,000 ล้านบาท ที่ชดเชยได้เพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น..!!

แต่ว่าระยะยาวหรือแบบถาวร จะมาจาก “กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน” ที่รัฐมีนโยบายจัดตั้งขึ้นมาเพื่อซื้อสัมปทานรถไฟฟ้าจากเอกชน (เวนคืนสัมปทาน) ทั้งหมด นำมาบริหารจัดการรายได้เองและเก็บค่าโดยสาร 20 บาททุกสีทุกสาย

ส่วนอีกทางมาจากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรถติด (Congestion Charge) ที่จะเป็นหนึ่งรายได้หลัก เพื่อใช้เป็นเงินชดเชย รถไฟ 20 บาททุกสีทุกสายดังกล่าว

อย่างไรก็ดียังมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีก 2 ฉบับ นั่นคือ…

ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) (ฉบับที่..) พ.ศ.. (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) ที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 พ.ค. 2568 และผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ 31 พ.ค. 2568 ปัจจุบันอยู่ในขั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาฯ หากแล้วเสร็จ จะนำเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ต่อไป

ตามด้วยร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ….ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 29 ม.ค. 2568 มีมติเอกฉันท์รับหลักการ ต่อมาเมื่อ 23 เม.ย. 2568 กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ….ประชุมครั้งสุดท้าย เพื่อเป็นการรับรองรายงานและข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการแล้ว ทำให้กฎหมายฉบับนี้จะกลับเข้าสู่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาในวาระ 2-3 ภายหลังเปิดสมัยประชุมเดือนก.ค.ก่อนที่จะมีการพิจารณาของวุฒิสภาต่อไป

น่าเสียดายนโยบาย..ที่ดูจะเป็นรูปธรรมและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง ต้องมาเจอ “สันดานผู้แทนราษฎรบางกลุ่ม” ที่มัวเมากับกิเลสการเมือง “นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” มันจึงต้องแท้งตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นเลย..!!

Back to top button