“ดาวโจนส์” ปิดนิวไฮ รับสัญญาณ “เฟด” จ่อหั่นดอกเบี้ย ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ (22 ส.ค.) หลังนักลงทุนแห่เข้าซื้อหุ้นรับสัญญาณเชิงบวกจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ระบุระหว่างการประชุมแจ็กสันโฮลว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือนกันยายนนี้

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 45,631.74 จุด เพิ่มขึ้น 846.24 จุด หรือ +1.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,466.91 จุด เพิ่มขึ้น 96.74 จุด หรือ +1.52% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 21,496.54 จุด เพิ่มขึ้น 396.22 จุด หรือ +1.88% โดยความเป็นไปได้ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเดือนก.ย. ถูกประเมินสูงเกือบ 90% เทียบกับ 75% ก่อนหน้านี้

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยพุ่งแรงสุด 3.18% ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟียบวก 2.7% หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวดีดแรง อาทิ Tesla พุ่งขึ้น 6.2% ส่วนหุ้น Intel บวก 5.5% หลังมีกระแสข่าวทำเนียบขาวเตรียมเข้าซื้อหุ้น 10% และหุ้น Coinbase พุ่ง 6.5% ตามแรงซื้อในหุ้นคริปโทเคอร์เรนซี

ด้านดัชนี S&P500 สามารถยุติการปรับตัวลงต่อเนื่อง 5 วัน หลังถูกกดดันจากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เมื่อต้นสัปดาห์ โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนี S&P500 และดาวโจนส์ยังปิดบวก ขณะที่ Nasdaq ลดลง 0.6% จากแรงขายหุ้นเทคโนโลยีและการโยกเงินลงทุนไปยังหุ้นมูลค่าต่ำกว่า

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวแข็งแกร่งจากระดับต่ำสุดในเดือนเมษายนที่ได้รับแรงกดดันจากมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนที่ผลประกอบการบริษัทที่ออกมาแข็งแกร่ง ความคาดหวังเชิงบวกต่อข้อตกลงการค้า และสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยจะช่วยหนุนดัชนีฟื้นตัวกลับมาใกล้ระดับสูงสุดอีกครั้ง ขณะที่ UBS Global Wealth Management ปรับเป้าดัชนี S&P500 สิ้นปีเพิ่มขึ้นเป็นครั้งที่สองในรอบ 2 เดือน โดยอ้างอิงถึงความแข็งแกร่งของกำไรบริษัท การคลี่คลายความตึงเครียดทางการค้า และความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย