
ฝรั่งเทขาย 8 วันติด!
วานนี้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีกกว่า 513 ล้านบาท ทำให้ 9 วันที่ผ่านมา (14-25 ส.ค. 68) ต่างชาติขายหุ้นไทยรวมกัน 7,755 ล้านบาท
วานนี้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีกกว่า 513 ล้านบาท
ทำให้ 9 วันที่ผ่านมา (14-25 ส.ค. 68) ต่างชาติขายหุ้นไทยรวมกัน 7,755 ล้านบาท
(ส่วนตัวเลขขายสุทธิของต่างชาติหุ้นวันที่ 13 ส.ค.ประมาณ 6,655 ล้านบาท มาจากจากดีลผู้ถือหุ้นใหญ่ “ติดล้อ” ขายหุ้นให้กับ BAY โดยหากตัดธุรกรรมนี้ออกไป ในวันนั้นต่างชาติซื้อสุทธิราว ๆ 1.5 พันล้านบาท)
การขายของต่างชาติในช่วง 8 วันล่าสุด
มีความเป็นไปได้ที่น่าจะขายทำกำไร หลังจากก่อนหน้านี้ ซื้อติดต่อกันมาต่อเนื่อง
หรือลากดัชนีจากบริเวณ 1,100 จุด ขึ้นมายืนเหนือ 1,250 จุด
หรืออีกแนวทางหนึ่งคือ อาจจะมีการ “ปรับพอร์ต” หรือเปลี่ยนตัวเล่นนั่นแหละ
เช่น ขายทำกำไร (ออกไปบางส่วน) ในหุ้นขนาดใหญ่ แล้วไปซื้อหุ้น (ขนาดใหญ่) ที่ราคายังแลกการ์ด และเมื่อบวกกับนักลงทุนสถาบันที่นำโดย “กองทุน” ต่าง กลับมาซื้อสุทธิ 4 วันติดต่อกัน ทำให้พอช่วยพยุงดัชนีไว้ได้ที่ระดับ 1,250 จุด (+/-)
ส่วนต่างชาติจะยังขายต่ออีกไหม
ประเด็นนี้หากดูจากปัจจัยต่างประเทศ มีการมองว่า ดอกเบี้ยโลกที่เป็นขาลง
น่าจะส่งผลด้านบวกกับตลาดหุ้นเอเชียอยู่
รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศไทยด้วย
และการขายทำกำไรของต่างชาติ ยังถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติที่จะมีการทำกำไรออกมาบ้าง เพราะจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ต่างชาติได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม
ต่างชาติ จึงยังไม่น่าจะทิ้งหุ้นไทยไปอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น หุ้นในกลุ่ม SET50 หรือบิ๊กแคปที่ย่อตัวลงมา อาจเป็นจังหวะต่อการ “ดักเก็บ” เข้าพอร์ต แต่ต้องดูแนวรับให้แม่น ๆ
อย่างกลุ่มธนาคารวานนี้ถูกเทขายออกมา เพราะถูกปัจจัยเกี่ยวกับดอกเบี้ยที่เป็นขาลงจากการส่งสัญญาณของเฟดที่บอกว่า ในช่วงเดือนดก.ย.นี้ มีความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะลดดอกเบี้ย
ตรงนี้ อาจเป็นแรงดกดดันมายัง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทยด้วย
โดยในปี 2568 จะเหลือการประชุมของ กนง.อีก 2 ครั้ง คือวันที่ 8 ต.ค. และ 17 ธ.ค. 68
ขณะที่ก่อนหน้านี้ การแถลงข่าวของ กนง.มีการบ่งชี้ว่า มีความเป็นไปได้ที่ในปีนี้ อาจจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาอีก 0.50% หากเกิดการช็อกทางเศรษฐกิจ
ปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยเลยกดหุ้นแบงก์ร่วมกันระนาว
นำโดย KBANK BBL SCB และ TTB
ส่วน “กรุงไทย” หรือ KTB ปิดบวกเล็กน้อย เพราะไม่ได้รับผลกระทบมาจากหากดอกเบี้ยลงมา
แต่หุ้นแบงก์แอง จะเห็นว่า เมื่อปรับลงไม่ได้ลงมามากนัก หรือลงแบบยั้ง ๆ เพราะน่าจะมีเรื่องของการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (ยังไม่ขึ้น XD) เข้ามาช่วยพยุงราคา
การขายหุ้นแบงก์ในรอบล่าสุดนี้ น่าจะมีต่างชาติผสมโรงขาย (ทำกำไร) ออกมาด้วย
ส่วน “การบินไทย” หรือ THAI หากดูธจากกราฟ ราคาเริ่ม ๆ ออกข้างแล้ว
เพราะมาอยู่ระหว่าง 12.00 บาท +/-
สำหรับการบินไทย เป็นกลุ่มนักลงทุนสถาบัน (กองทุน) ที่ซื้อ ๆ ขาย ๆ กันอยู่ โดยพยายามกวัก “เม่า” เข้ามาเทรดกันเยอะ ๆ
กลยุทธ์เล่นหุ้นบินไทยที่แนะนำกันคือ ย่อ (เยอะ ๆ) “ซื้อ” (เข้าทีละไม้) และพอขึ้นให้ “ขาย”
ส่วนแนวรับ แนวต้านหุ้นบินไทยตอนนี้ยังดูลำบาก
ส่วนกัลฟ์ GULF ที่มีการไล่ราคาขึ้นมา นี่ก็น่าจะมาจากกลุ่มกองทุนเข้ามาซื้อหุ้น และอาจจะรวมถึงต่างชาติ หลังจากขายทำกำไรบางส่วนในหุ้นขนาดใหญ่บางตัวออกมา
แนวต้านของกัลฟ์ จะอยู่ที่ 48.75-49.00 บาท ซึ่งวานนี้ขึ้นมาชน ก็ยังไม่ผ่าน
วันนี้ มีโอกาสที่หุ้นอาจจถูกขายทำกำไร
มีแนวรับ 47.50-47.25 บาท