SCGD โล่ง “ศาลฎีกาอินโด” ยกฟ้อง KIA ปมพิพาทรัฐ เดินหน้าธุรกิจตามปกติ

SCGD เผยศาลฎีกาอินโดนีเซียมีคำพิพากษายกฟ้องคดี KIA บริษัทย่อยธุรกิจกระเบื้องเซรามิก ยืนยันเดินหน้าดำเนินงานตามปกติ


บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยว่า ตามที่เคยรายงานในหนังสือชี้ชวนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (Filing) และรายงานประจำปี 2567 (แบบ 56-1 One Report) เกี่ยวกับข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานรัฐอินโดนีเซียกับบริษัทย่อยในตลาดหลักทรัพย์อินโดนีเซีย PT Keramika Indonesia Assosiasi Tbk (KIA) และบริษัทย่อย PT KIA Keramik Mas (KKM) ล่าสุด ศาลฎีกาอินโดนีเซียมีคำพิพากษายืนตามศาลสูงให้ยกฟ้องข้อกล่าวหาดังกล่าว

ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการเรียกร้องของหน่วยงานรัฐอินโดนีเซียต่อ KIA และ KKM โดยทั้งสองบริษัทได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองตั้งแต่ปลายปี 2566 และยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงในเดือนกรกฎาคม 2567 ก่อนดำเนินการโต้แย้งต่อศาลฎีกาในช่วงตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 กระทั่งมีคำตัดสินล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2568

โดย KIA ได้เปิดเผยข้อมูลต่อ Indonesia Stock Exchange (IDX) ว่าคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นที่สิ้นสุดแล้ว โดยบริษัทจะพิจารณาดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป พร้อมยืนยันว่าการดำเนินธุรกิจยังเป็นไปตามปกติ โดยผลประกอบการรวมรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มียอดขายราว 623 ล้านบาท EBITDA ประมาณ 11 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิราว 16 ล้านบาท

อนึ่ง ข้อพิพาทระหว่าง KIA และบริษัทย่อยKKM กับหน่วยงานรัฐอินโดนีเซีย เกิดจากการที่ภาครัฐอ้างว่า KIA มีหนี้ค้างชำระและมีคำสั่งระงับการเข้าระบบจดแจ้งทางทะเบียนกับกระทรวงกฎหมายและสิทธิมนุษยชนอินโดนีเซีย ส่งผลให้ KIA และ KKM ต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองชั้นต้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม 2566 เพื่อขอให้ศาลยกเลิกข้อเรียกร้องดังกล่าว

ขณะที่ต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 บริษัทได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูง หลังจากศาลปกครองมีคำพิพากษายกฟ้อง และในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายนปีเดียวกัน ได้ดำเนินการโต้แย้งต่อศาลฎีกาเพื่อขอให้ทบทวนคำพิพากษาเดิม กระทั่งวันที่ 9 กันยายน 2568 ศาลฎีกาอินโดนีเซียมีคำตัดสินยืนตามศาลสูงให้ยกฟ้อง ส่งผลให้ข้อพิพาทสิ้นสุดลงและ KIA สามารถเดินหน้าดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ

Back to top button