
จะหลุด 1,300 จุดไหม
วันนี้ (18 ก.ย.) น่าจะทราบธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเท่าไหร่ หากเป็นไปตามที่ประเมินกันไว้ คือปรับลงมา 0.25% แต่หากมากกว่านั้นหรือ 0.50% ที่ถือว่าเซอร์ไพรส์ค่อนข้างมาก
วันนี้ (18 ก.ย.) น่าจะทราบธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเท่าไหร่
หากเป็นไปตามที่ประเมินกันไว้
คือปรับลงมา 0.25%
แต่หากมากกว่านั้นหรือ 0.50% ที่ถือว่าเซอร์ไพรส์ค่อนข้างมาก
ประเด็นที่น่าสนใจคือว่า หากปรับลงมา 0.25% ตามที่นักวิเคราะห์ทั้งของสหรัฐฯ และไทยได้คาดกันไว้นั้น แล้วหุ้นไทยจะเกิดขายทำกำไรหรือไม่
เพราะช่วงที่ดัชนีวิ่งขึ้นจากระดับกว่า 1,200 จุด มายืนเหนือ 1,300 จุด
นั่นมาจากปัจจัยเรื่องดอกเบี้ยเป็นหลัก
พอเมื่อมีความชัดเจนเกี่ยวกับปัจจัยบวกที่ว่านี้
จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขายทำกำไรกับหุ้น (ขนาดใหญ่) ที่พาดัชนีขึ้นมา และอาจจะทำให้ดัชนีร่วงหลุด 1,300 จุดได้ (วานนี้ปิด 1,306.69 จุด, –1.50 จุด)
สำหรับดัชนีหุ้นไทย
เมื่อนับจากวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา บวกติดต่อกันมาทั้งหมด 8 วัน (นับจากวันปิดตลาด 5 ก.ย .68)
หากหุ้นไทยหลุด 1,300 จุด จะมีแนวรับทางเทคนิคที่ 1,290 จุด และ 1,285 จุด
แต่หากเฟดปรับดอกเบี้ยลงแรง 0.50%
นั่นมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีมีโอกาสจะทะยานบวกต่อ แต่ก็ไม่น่าจะเกินแนวต้านสำคัญ 1,330 จุด
แล้ะเป็นที่น่าสังเกตว่า นักวิเคราะห์จากหลายโบรกเกอร์ ต่างค่อนข้างมองทางเทคนิคตรงกันว่า หากหุ้นไทยวิ่งไปต่อ ก็จะมาตัน ๆ หรือชนแนวต้านที่ 1,330 จุด นี่แหละ
ส่วนกลุ่มหุ้นบิ๊กแคปที่พาดัชนีขึ้นมาในรอบล่าสุดนี้
นำโดย เดลต้าฯ (DELTA) ที่ล่าสุด วานนี้ราคากลับขึ้นมาที่ระดับ 165.00 บาทอีกครั้ง และเป็นบริเวณแนวต้านเดิม
และยังมี บมจ.ปตท. หรือ PTT ที่ราคาไต่ระดับจาก 31.00 บาท มาอยู่บริเวณ 33.25 บาท
รวมถึงหุ้นลูกของ ปตท. คือ บมจ.ปตท.สผ PTTEP ที่วิ่งขึ้นมาตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทะยานต่อเนื่อง
และอีกหุ้นสำคัญ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ที่ราคากำลังขึ้นมาปิดทดสอบ 250 บาท
หากหุ้นที่ว่านี้ ไม่ถูกขายออกมา ดัชนีน่าจะหลุด 1,300 จุดค่อนข้างยาก โดยเฉพาะเดลต้าฯ ที่ต้องมาลุ้นกันว่าจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ เพราะหากผ่านไม่ได้ ราคาหุ้นมีอาการไถลลงแน่ ๆ
แต่หากผ่านไปได้ หุ้นเดลต้าฯ น่าจะมีส่วนสำคัญที่พาดัชนีขึ้นมาที่แนวต้าน 1,330 จุด
อีกกลุ่มที่น่าสนใจ แลราคาน่าจะลงมายังจุดต่ำสุดแล้ว คือ กลุ่มธนาคาร
ล่าสุดเท่าที่คุยกับนักวิเคราะห์วานนี้
ต่างมองว่า หุ้นกลุ่มแบงก้เริ่มน่าสนใจจากราคาที่ปรับลงมาต่อเนื่อง ช่วยดันอัตราผลตอบแทนเงินปันผลขึ้นมา
ใครที่มีเงินสด จึงแนะนำให้ “ทยอยสะสมได้” โดยเฉพาะ กรุงไทย (KTB) และเอสซีบี เอกซ์ (SCB)
และอาจรวมถึงแบงก์กสิกรไทย (KBANK) ด้วยเช่นกัน
ส่วนแบงก์ทหารไทยธนชาต หรือ TTB ราคาลงมาที่แนวรับ 1.87 บาท ซึ่งไม่น่าหลุด และราคาอาจจะขยับขึ้นได้ หลังจากประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างในช่วงเดือนก.ย.นี้ (โบรกฯ คาด 6.5 สตางค์ต่อหุ้น)
และน่าจะช่วยดันราคาหุ้นกลับขึ้นมาที่บริเวณ 1.90-1.92 บาทได้
โดยสรุปแล้ว หากวันนี้หรือพรุ่งนี้ แม้ดัชนีอาจจะลงมาต่ำกว่า 1,300 จุดอีกครั้ง แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะดีดกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,300 จุดได้อีกค่อนข้างแน่
และคาดว่าจะใช้ช่วงเวลาภายในไม่กี่วัน นับจากวันที่ปรับลงมา