CBG บวก 2% รับข่าวดีจับมือ “ชิงเต่า” เชื่อมสัมพันธ์การค้าไทย-จีน หนุนธุรกิจเครื่องดื่ม
CBG บวก 2% หลังลงนามร่วมมือกับเบียร์ชิงเต่าและ NYT ต่อยอดเครือข่ายจัดจำหน่ายและโลจิสติกส์ เชื่อมสัมพันธ์ไทยและจีน รองรับการเติบโตธุรกิจเครื่องดื่มในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (29 ก.ย. 68) ราคาหุ้น บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ณ เวลา 11:29 น. อยู่ที่ระดับ 55.00 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 2.33% ราคาสูงสุดอยู่ที่ 55.25 บาท ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 53.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 134.11 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น CBG ปรับตัวขึ้นตอบรับข่าวดี จากบริษัทฯลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท เบียร์ชิงเต่า และ บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT เพื่อขยายตลาดเครื่องดื่มไทยและจีน ในวาระครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและจีน
โดยการจับมือครั้งนี้เปิดโอกาสให้ CBG ใช้จุดแข็งด้านเครือข่ายจัดจำหน่าย ร่วมกับประสบการณ์ของเบียร์ชิงเต่าที่มีธุรกิจครอบคลุมกว่า 120 ประเทศ และเสริมด้วยโครงสร้างโลจิสติกส์ของ NYT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่าเรือขนส่งรถยนต์แบบ Ro-Ro รายเดียวในประเทศไทย ความร่วมมือดังกล่าวนับเป็น สัญลักษณ์สำคัญของการบูรณาการธุรกิจไทยและจีน และปูทางสู่การเติบโตในตลาดจีนและอาเซียน
นายเสถียร เสถียรธรรมะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CBG เปิดเผยว่า คาราบาวในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลของไทย พร้อมนำความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรมและคุณภาพสินค้า ผสานกับเครือข่ายจัดจำหน่ายกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศของเบียร์ชิงเต่า และระบบโลจิสติกส์ของ NYT ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่าเรือโรลออนโรลออฟ Ro-Ro รายเดียวในไทย ติดอันดับ 4 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย การจับมือครั้งนี้จะช่วยต่อยอดธุรกิจและสร้างโอกาสบุกตลาดจีนและอาเซียนอย่างมั่นคง
ด้านนายเจียง จงเสียง ประธานกรรมการเบียร์ชิงเต่า กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนมิตรภาพไทยและจีน แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการเร่งขยายธุรกิจสู่ต่างประเทศของเบียร์ชิงเต่า ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 100 ปี และครอบคลุมกว่า 120 ประเทศทั่วโลก ขณะที่นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NYT ย้ำถึงบทบาทของ NYT ในการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการค้าระหว่างประเทศ
การลงนามครั้งนี้ถือเป็น รากฐานความร่วมมือเชิงลึกทั้งด้านเทคโนโลยี ตลาด แบรนด์ และเครือข่ายจัดจำหน่าย ซึ่งไม่เพียงตอกย้ำความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและจีน แต่ยังช่วยเปิดเส้นทางการเติบโตใหม่ของ CBG ในตลาดแดนมังกรและภูมิภาคอาเซียน เพิ่มความคาดหวังเชิงบวกต่อทิศทางผลประกอบการและมูลค่าหุ้นในอนาคต