
“ชัยยศ” แนะกลยุทธ์ลงทุน “Selective Buy” ชู AOT เด่นรับอานิสงส์นักท่องเที่ยวจีนฟื้น
“ชัยยศ” มอง SET มีโอกาศไปต่อ หลังนโยบายการเงินโลกผ่อนคลาย กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้า ส่วนกลยุทธ์ลงทุนเน้น Selective Buy ชู AOT เด่นรับอานิสงส์ Golden Week นักท่องเที่ยวจีนหนุน-อัพไซด์จากค่า PSC ให้ราคาเป้าหมาย 48 บาท พร้อมจับตา 8 ต.ค.นี้ ประชุม กนง. หากลดดอกเบี้ยหนุน MTC โดดเด่น ให้ราคาเป้าหมาย 58 บาท
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (1 ต.ค.68) ว่าเมื่อวานนี้ 30 ก.ย. นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิ 3,776.54 ล้านบาท ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงกว่า 14 จุด ซึ่งยังมีปัจจัยกดดันหลักจาก 2 ประเด็นสำคัญ
ประเด็นแรก คือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรง โดยน้ำมันดิบเบรนท์ร่วง 3.08% ปิดที่ 67.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 3.45% ปิดที่ 63.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อกลุ่มพลังงานและกระตุ้นแรงขายออกมาในตลาด
ประเด็นที่สอง คือ การปรับน้ำหนักการคำนวณดัชนี SET50 และ SET100 ตามเกณฑ์ใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ สำหรับหุ้นที่มีน้ำหนักเกิน 10% จะถูกปรับลดน้ำหนักลง ซึ่งในปัจจุบันมี บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ดังกล่าว ถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้ดัชนี SET ปรับตัวลง
นายชัยยศ จิวางกูร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในมุมมองระยะกลางถึงยาว บล.กรุงศรี ยังคงประเมินว่า SET Index มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากทิศทางนโยบายการเงินโลกที่ยังคงผ่อนคลาย ซึ่งธนาคารกลางหลายแห่งยังเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ล่าสุดได้ปรับลดดอกเบี้ยลง หลังตัวเลขการจ้างงานออกมาอ่อนแอ และยังส่งสัญญาณชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มปรับลดต่อในระยะถัดไป ซึ่งหาก Fed เดินหน้าลดดอกเบี้ยจริง จะเป็นปัจจัยหนุนให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets)
ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากเศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วย การบริโภคภายในประเทศ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในสัปดาห์นี้ แนะนำให้นักลงทุนใช้วิธี Selective Buy โดยให้ติดตามปัจจัยสำคัญจาก Golden Week จีน ระหว่างวันที่ 1–8 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันหยุดยาวประจำชาติ และมักจะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกต่างประเทศจำนวนมาก โดยไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางหลัก ส่งผลบวกต่อกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและสายการบิน
ทั้งนี้ หุ้นเด่นที่แนะนำในช่วงนี้คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT ซึ่งได้อานิสงส์จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น อีกทั้ง ยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการปรับขึ้นค่า PSC (Passenger Service Charge) หากได้รับการอนุมัติ ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ของบริษัท โดยแนะนำราคาเป้าหมายอ้างอิงจากประมาณการของ IAA Consensus ไว้ที่ 48 บาท
นอกจากนี้แนะนำติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของตลาด เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจไทย ทั้งการผลิต การส่งออก รวมถึง GDP มีทิศทางชะลอตัว ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า กนง. อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในแง่กลยุทธ์การลงทุน มองว่ากลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลงคือ หุ้นไฟแนนซ์ โดยเฉพาะ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC ซึ่งให้ราคาเป้าหมายที่ 58 บาท