
ATLAS ลุ้นเทรดวันแรกคึก! โบรกเคาะเป้า 5 บาท กำไรเฉลี่ย 3 ปีโต 22%
จับตา ATLAS ลงสนามเทรดวันแรกคึก โบรกคาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 22% จากการขยายธุรกิจก๊าซหุ้งต้ม สถานีบริการ ร้านจำหน่ายก๊าซ โรงบรรจุก๊าซ รวมไปถึงสื่อโฆษณา ให้ราคาเป้าหมาย 3.80-5.00 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ต.ค.68) ว่าหลักทรัพย์ บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ATLAS ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค
โดย ATLAS มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลัง IPO จำนวน 1,418 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 418 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 3 บาท มูลค่าการเสนอขาย 1,254 ล้านบาท
นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ 1 บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ATLAS เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้น IPO ของ ATLAS ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน ผ่าน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) และผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 8 ราย สะท้อนความเชื่อมั่นต่อศักยภาพการเติบโตของบริษัท
สำหรับผลตอบรับดังกล่าวสะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพการเติบโตของ ATLAS ซึ่งดำเนินธุรกิจ ก๊าซ LPG แบบครบวงจร ควบคู่กับธุรกิจสื่อโฆษณาที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง และมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้แข็งแกร่งในอนาคต อีกทั้งบริษัทฯยังได้รับอานิสงส์จาก Power of Network และ Ecosystem ของกลุ่ม PTG ผ่านฐานสมาชิก Max Card กว่า 20 ล้านราย ที่ช่วยขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ระดับราคา IPO ที่ 3 บาทต่อหุ้น ถือว่าเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดยมีค่า P/E Ratio ประมาณ 15 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มพลังงานและมีเดียที่ราว 23 เท่า สะท้อนถึงส่วนต่างมูลค่า (Valuation Gap) ที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ในอนาคต
ด้าน นายอมร พิริยะแพทย์สม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ ATLAS เปิดเผยว่า การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินและเพิ่มศักยภาพในการขยายธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนนำเงินระดมทุนกว่า 1,255 ล้านบาท ไปขยายธุรกิจ LPG ครอบคลุมตั้งแต่ก๊าซหุงต้มภาคครัวเรือน โรงบรรจุแก๊ส ถังแก๊ส สถานีบริการ LPG รวมถึงต่อยอดโครงการ PT Auto Transform เพื่อเพิ่มจำนวนรถยนต์ที่ใช้ก๊าซ LPG และขยายฐานลูกค้าภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม พร้อมลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการจำหน่ายก๊าซ LPG เพิ่มเติม
“หลังการระดมทุน ATLAS จะมีความพร้อมในการลงทุนทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตในอนาคต โดยจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรกวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค” นายอมร กล่าว
ขณะที่ นายสุวัชชัย พิทักษ์วงศาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ ATLAS กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัท เพื่อขยายขีดความสามารถทางธุรกิจและเพิ่มโอกาสการเติบโตในระยะยาว พร้อมเปิดโอกาสให้นักลงทุนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ผู้นำด้านนวัตกรรมสินค้าและบริการเพื่อสร้างความสุขให้ทุกครัวเรือน
ทั้งนี้ ATLAS มีจุดแข็งจากการดำเนินธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG แบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การจัดจำหน่ายก๊าซบรรจุถัง การบริหารสถานีบริการ และการดำเนินงานโรงบรรจุก๊าซด้วยตนเองในทุกขั้นตอน โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 14% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงทั่วไปที่อยู่ราว 3-5%
นอกจากนี้ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาด (Market Share) อันดับ 1 ของกลุ่ม LPG ภาคขนส่ง (Auto LPG) ด้วยยอดขายรวม 116.3 ล้านกิโลกรัม หรือคิดเป็น 31.1% และอยู่ในอันดับ 4 ของอุตสาหกรรม LPG ของประเทศไทย ด้วยยอดจำหน่ายรวม 205.6 ล้านกิโลกรัม หรือคิดเป็น 11.1% ของยอดจำหน่ายทั่วประเทศ สะท้อนความเป็นผู้นำในตลาดเฉพาะทางที่ยังมีศักยภาพเติบโตอีกมาก
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม 5,935.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 5,294.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 155.70 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) 14.4% ขณะที่ไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% จากไตรมาสก่อนหน้า จากแรงหนุนรายได้ธุรกิจสื่อโฆษณาที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ หากพิจารณาภาพรวมธุรกิจในอนาคต จะเห็นได้ว่า ATLAS ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากการวางรากฐานธุรกิจพลังงานครบวงจรและกลยุทธ์ขยายตลาด LPG ทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโตของรายได้และกำไรในระยะยาว
ทางด้าน นักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากหลายโบรกเกอร์ ต่างประเมินทิศทางธุรกิจของบริษัทไว้อย่างน่าสนใจ โดยมองว่า ATLAS มีความได้เปรียบจากโมเดล “Creative Energy Retail” ที่ผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ากับบริการพลังงาน ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าและขยายโอกาสทางการตลาดได้กว้างขึ้น ทั้งในภาคครัวเรือน อุตสาหกรรม และภาคขนส่ง
อาทิ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KGI ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มผลประกอบการของหุ้น ATLAS เติบโตแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ราว 19% ช่วงปี 2567-2570 จากแรงหนุนรายได้ธุรกิจหลักด้านก๊าซ LPG ทั้งภาคขนส่งและภาคครัวเรือน รายได้จากการจำหน่ายก๊าซ LPG คาดเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 1.09 หมื่นล้านบาท ในปีนี้ และเพิ่มขึ้นอีก 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 12,000 ล้านบาท ในปีหน้า ตามแผนขยายสถานีบริการก๊าซ LPG รวม 20 แห่ง ภายในสองปี และขยายร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มกว่า 260 แห่ง พร้อมเพิ่มโรงบรรจุก๊าซรวม 6 แห่ง ซึ่งจะช่วยผลักดันอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 10.9% ในปี 2567 เป็น 14.5% ในปี 2568
นอกจากนี้ ATLAS ยังต่อยอดธุรกิจผ่าน Creative Energy Retail เข้าสู่ตลาดสื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ (Max Taxi Ads) ซึ่งเป็นสื่อที่มีอัตรากำไรสูง คาดว่ารายได้จากส่วนนี้จะเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 175 ล้านบาท ในปี 2568 และ 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 185 ล้านบาท ในปี 2569 จากแนวโน้มเติบโตของตลาดสื่อนอกบ้าน (Out of Home Media) ที่ขยายตัวต่อเนื่องในช่วง 4 ปีที่ผ่าน ทั้งนี้ บล.เคจีไอ ประเมินราคาเหมาะสมของหุ้น ATLAS ที่ระดับ 4.90 บาทต่อหุ้น สะท้อนศักยภาพการเติบโตต่อเนื่องและมูลค่าที่มีช่องว่างเพิ่มขึ้นในอนาคต
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด หรือ ASPS ประเมินแนวโน้มผลประกอบการของ ATLAS มีทิศทางเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องจากจุดแข็งด้าน โมเดลธุรกิจ COCO (Company Owned Company Operated) ที่ช่วยควบคุมคุณภาพการดำเนินงานและบริหารอัตรากำไรได้ดีกว่าคู่แข่ง ขณะเดียวกันยังต่อยอดการขยายสาขาไปยังพื้นที่ใหม่ และใช้เครื่องหมายการค้าร่วมกับ กลุ่ม PTG เพื่อเพิ่มการรับรู้ในตลาด ส่งผลให้อัตรากำไรเฉลี่ยของบริษัทสูงกว่ากลุ่มอุตสาหกรรม โดยคาดกำไรสุทธิในปี 2568 อยู่ที่ 321.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน และปี 2569 อยู่ที่ 381.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน
นอกจากนี้ ATLAS ยังขยายธุรกิจใหม่ด้าน สื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ (Max Taxi Ads) ซึ่งเป็นสื่อที่มีอัตรากำไรสูง และคาดว่าธุรกิจนี้จะมีสัดส่วนกำไรสุทธิถึงกว่า 50% ของทั้งปี 2567 ช่วยสร้างฐานรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว ขณะที่เงินที่ได้จากการระดมทุน IPO จะใช้ขยายกิจการหลักและลงทุนในโครงการ PT Auto Transform เพื่อเพิ่มความต้องการใช้ก๊าซ LPG ของกลุ่มผู้ขับแท็กซี่และลูกค้าในสถานีบริการ PT ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งธุรกิจพลังงานและสื่อโฆษณาใน Ecosystem เดียวกัน โดย ASPS ประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2569 ที่ 4.20 บาทต่อหุ้น อิงค่า PER เฉลี่ยกลุ่มที่ราว 15.5 เท่า
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ประเมินว่า ธุรกิจสื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ จะยังเป็นกุญแจสำคัญของการสร้างมูลค่าเพิ่ม (Asset Monetization) ให้กับ ATLAS โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจนี้คิดเป็น 62.8% ของกำไรสุทธิทั้งปี 2567 และมีอัตรากำไรสุทธิสูงมาก หากจำนวนแท็กซี่เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจะช่วยผลักดันกำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่เครือข่ายของกลุ่ม PTG รวมถึงโครงการ PT Auto Transform และ PT Taxi Transform จะเป็นแรงหนุนสำคัญให้ธุรกิจโฆษณาเติบโตต่อเนื่อง และสามารถขยายไปสู่ลูกค้ากลุ่มนอกเครือข่ายได้เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ATLAS ยังเป็นผู้นำในตลาดก๊าซ LPG ภาคขนส่ง ซึ่งมีศักยภาพเติบโตสูงจากเครือข่ายสถานีบริการของ PT โดยรายได้ของบริษัทจะได้รับแรงขับเคลื่อนจากโครงการแปลงระบบเชื้อเพลิงของรถแท็กซี่และรถรับจ้างจาก NGV หรือเบนซินหันมาใช้ LPG ซึ่งช่วยลดต้นทุนพลังงานให้ผู้ใช้บริการ และสร้างความต่อเนื่องในการเติมก๊าซที่สถานีของ PT ทั้งนี้ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2569 ที่ 4.65 บาทต่อหุ้น อิงค่า P/E ปี 2569 ที่ 16 เท่า และคาดกำไรต่อหุ้น (EPS) ที่ 0.29 บาท สะท้อนแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งทั้งจากธุรกิจพลังงานและสื่อโฆษณาในระยะยาว
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ประเมินว่า ATLAS มีแนวโน้มการเติบโตโดดเด่นหลังระดมทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO โดยบริษัทมีแผนขยายฐานผู้ใช้งานจากกลุ่มแท็กซี่ไปยังผู้ใช้รถทั่วไปในภาคขนส่ง รวมถึงรุกตลาด ก๊าซ LPG ภาคครัวเรือน ซึ่งมีขนาดตลาดใหญ่กว่าภาคขนส่งถึง 3.6 เท่า พร้อมต่อยอดสินทรัพย์ที่มีอยู่ไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น สื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ (Taxi Ads) ที่มีอัตรากำไรสูง และธุรกิจบริหารจัดการจำหน่ายน้ำมันและการให้เช่าพื้นที่ โดยทั้งหมดนี้ได้รับแรงหนุนจากการใช้เงิน IPO เพื่อเพิ่มโรงบรรจุและร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม เพิ่มถังบรรจุ และสถานีบริการ LPG รวมถึงลงทุนในโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บล.บียอนด์ คาดกำไรสุทธิของ ATLAS จะเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ราว 18% ช่วงปี 2568-2570 โดยคาดมีกำไรสุทธิ 337 ล้านบาทในปี 2568, 394 ล้านบาทในปี 2569 และ 434 ล้านบาทในปี 2570 หนุนจากการขยายธุรกิจหลักและการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน รวมถึงศักยภาพการแข่งขันจาก Ecosystem ของกลุ่ม PTG ซึ่งช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในภาคขนส่งและครัวเรือนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินมูลค่าพื้นฐานของหุ้น ATLAS ที่ระดับ 5.00 บาทต่อหุ้น อ้างอิงค่า P/E ปี 2569 ที่ 18 เท่า สะท้อนโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงในระยะกลางถึงยาว
บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ประเมินว่า ATLAS มีแนวโน้มรายได้เติบโตเฉลี่ย (CAGR) ราว 17.3% ต่อปี ช่วงปี 2568-2570 จากการขยายธุรกิจปั๊มก๊าซแบรนด์ “PT” และการรุกเข้าสู่ตลาด LPG ภาคครัวเรือนเต็มรูปแบบหลังการระดมทุน IPO โดยคาดรายได้อยู่ที่ 12,867 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 20.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ในปี 2568, 16,072 ล้านบาท (+24.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ในปี 2569 และ 17,708 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ในปี 2570 ได้แรงหนุนจากการขยายสถานีบริการก๊าซจาก 243 แห่งในปี 2567 เป็น 276 แห่งในปี 2570 (เติบโตเฉลี่ย 5.4% ต่อปี) และการเพิ่มโรงบรรจุก๊าซจาก 6 แห่งเป็น 14 แห่ง รวมถึงขยายร้านค้าก๊าซหุงต้ม (Gas Shop) จาก 311 แห่งเป็น 725 แห่ง หรือเติบโตเฉลี่ย 28.1% ต่อปี
บล.ซีจีเอสไอ ระบุว่าแนวโน้มกำไรปี 2569 จะอยู่ที่ 408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังไม่กระทบในระยะกลาง เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ ATLAS เป็นรถเชิงพาณิชย์ เช่น แท็กซี่ ที่มีต้นทุนในการเปลี่ยนเชื้อเพลิงสูง อีกทั้งเทคโนโลยี EV ยังไม่เสถียรพอ โดย นักวิเคราะห์ประเมินมูลค่าพื้นฐานที่ 4.72 บาทต่อหุ้น อิงค่า P/E ปี 2569 ที่ 17.6 เท่า และ EPS ปี 2569 ที่ 0.27 บาทต่อหุ้น สะท้อนศักยภาพการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่งช่วยขยายฐานลูกค้าในภาคขนส่งและครัวเรือนอย่างยั่งยืน
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ YUANTA ประเมินว่า ATLAS มีแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการก๊าซและโรงบรรจุ LPG ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้และลดต้นทุนต่อหน่วย โดยคาดกำไรปกติปี 2568 อยู่ที่ 301 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจ LPG ทั้งในภาคขนส่ง (ตามปริมาณการเดินทางในประเทศ) และภาคครัวเรือน (จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง) ขณะที่สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขาย (SG&A/Sales) มีแนวโน้มลดลงเหลือ 12.0% หลังเปิดโรงบรรจุก๊าซแห่งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ช่วยลดต้นทุนจำหน่ายก๊าซ LPG
ภายในปี 2569 คาดกำไรปกติจะเพิ่มขึ้นเป็น 376 ล้านบาท เติบโต 25% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามการขยายตัวของธุรกิจ LPG และสื่อโฆษณาที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงแนวโน้ม SG&A/Sales ที่ลดลงต่อเนื่องจากการเปิดโรงบรรจุใหม่เพิ่มเติม โดย บล.หยวนต้า ประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ระดับ 3.80 บาทต่อหุ้น อิงค่า P/E 14.3 เท่า และ EPS ปี 2569 ที่ 0.27 บาทต่อหุ้น ซึ่งสะท้อนแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการจากการขยายเครือข่ายและการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในอนาคต
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ประเมินว่า ATLAS มีแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่ง โดยคาดกำไรหลักปี 2568-2570 เติบโตเฉลี่ย 22% CAGR มีกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 325 ล้านบาทจากแรงหนุนรายได้ธุรกิจหลักทั้งการจำหน่ายก๊าซ LPG และการให้บริการน้ำมัน รวมถึงรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณาที่เติบโตต่อเนื่อง โดยคาดกำไรปี 2568 และ 2569 จะเพิ่มขึ้น 23% และ 26% ตามลำดับ ตามการขยายฐานลูกค้าและการเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) จาก 2.7% ในปี 2567 เป็น 3.0% และ 3.4% ในปี 2568-2569 ตามลำดับ ทั้งนี้ ได้แรงหนุนจากธุรกิจ Taxi Ads ที่มีอัตรากำไรสูง และค่าใช้จ่าย SG&A/Sales ที่ลดลงต่อเนื่อง ภายใต้สมมติฐานว่าอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจ LPG ทรงตัวในระดับมั่นคง
โดย บล.บัวหลวง ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 2569 ของหุ้น ATLAS ที่ 4.64 บาทต่อหุ้น อิงค่า P/E เป้าหมาย 16 เท่า คำนวณจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธุรกิจให้บริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (65%) ที่มีค่าเฉลี่ย P/E 12.5 เท่า และธุรกิจสื่อนอกบ้าน (35%) ที่อ้างอิงค่าเป้าหมาย P/E ของ PLANB ที่ 23 เท่า สะท้อนรูปแบบธุรกิจผสมผสานของ ATLAS ที่เติบโตทั้งในกลุ่มพลังงานและสื่อโฆษณา โดยคาดกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2569 ที่ 0.294 บาทต่อหุ้น หนุนภาพรวมการเติบโตระยะกลางอย่างมั่นคงจากทั้งรายได้และอัตรากำไรที่ปรับตัวดีขึ้น